เมื่อวันที่ 14 กันยายน ความคืบหน้า น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบอำนาจให้ทนายความดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่โพสต์และแชร์ข้อความคุกคามหมิ่นประมาท โดยแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีโซเชียลมีเดียต่างๆ กว่า 100 บัญชี โดยผู้ถูกออกหมายเรียกจำนวน 7 คน เข้าพบ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หลังโพสต์และแสดงความคิดเห็นดังกล่าว เบื้องต้นผู้ถูกออกหมายเรียกเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน พร้อมทนายความ โดยพนักงานสอบสวนสอบปากคำประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อความที่โพสต์ลงในโลกโซเชียล รวมถึงแหล่งที่มาของข้อมูล เพื่อหาแหล่งที่มาและข้อเท็จจริงในข้อมูลดังกล่าว รวมถึงประเด็นต่างๆ ที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ถูกออกหมายมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือให้การอย่างไรก็ได้

น.ส.อมรภัค ศรีบุญชัย อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายเรียก กล่าวภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่าตนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตอนได้รับหมายเรียกมาก็ตกใจ จึงมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน จำไม่ได้ว่าแชร์ข้อความหรือโพสต์ใดเกี่ยวกับ #ตามหาลูกประยุทธ์ หรือไม่เพราะเวลาผ่านมานานแล้ว จำได้เพียงเคยเห็นผ่านๆ เพราะวันๆ มีธุระต้องทำเยอะ โดยในการเข้าพบครั้งนี้ ตำรวจก็ไม่ได้ให้ดูว่าแชร์หรือโพสต์สิ่งใดที่ผิดกฎหมาย

นายศุภกร (สงวนนามสกุล) กล่าวว่าถูกหมายเรียก ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์เกี่ยวกับ #ตามหาลูกประยุทธ์ จนคาดว่ามีคนมาคอมเมนต์หรือแชร์ต่อกันเยอะ ทั้งนี้ก็ยอมรับผิด ที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอโทษในที่ไปกล่าวหาเจ้าทุกข์จนเกิดความเสียหาย ไม่มีเจตนาจริงๆ และไม่อยากให้คนอื่นๆ ไปแชร์ต่ออีก เพราะจะเกิดแต่ความแตกแยกในสังคม จากนี้ตำรวจนัดพบอีกครั้งวันที่ 1 ตุลาคมนี้เพื่อส่งตัวพร้อมสำนวนคดีให้อัยการ

พ.ต.ท.อธิชย์  กล่าวว่าเบื้องต้นตำรวจออกหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 13 คน วันนี้มาเข้าพบ 8 คน ให้การปฏิเสธ 6 คน มีผู้ให้การรับสารภาพเพียงรายเดียว อีกรายตำรวจกันไว้เป็นพยาน จากนั้นเมื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเสร็จแล้วจึงปล่อยตัวกลับไปเนื่องจากเป็นการเข้าพบตามหมายเรียก