ศรีสุวรรณ จี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ ตั้ง กก.สอบเอาผิด 35 ผู้บริหาร ม.กีฬาแห่งชาติ

ศรีสุวรรณ จี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ ตั้ง กก.สอบเอาผิด 35 ผู้บริหาร ม.กีฬาแห่งชาติ

วันนี้ (14 กันยายน 2563) ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อผู้บริหาร 35 คน ทั้งในส่วนกลาง วิทยาเขต และโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ หลังจากได้รวมกลุ่มกันไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 เพื่อคัดค้านรายชื่อบุคคลที่ผ่านการสรรหาตามกฎหมาย ที่จะต้องเสนอต่อสภามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งปรากฎเป็นข่าวในสื่อสารมวลชนทั่วไปนั้น

ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เป็นที่น่าสงสัยว่า คณะกรรมการสรรหาฯ ยังไม่มีการแจ้งรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีต่อสาธารณะ ฉะนั้นรายชื่อที่กลุ่ม 35 ผู้บริหารฯ ดังกล่าว นำมาคัดค้านและเผยแพร่ตามสื่อนั้น คณะที่มายื่นหนังสือจะล่วงรู้ได้อย่างไรว่า คณะกรรมการสรรหาฯ คัดสรรชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี ซึ่งยังอยู่ในชั้นความลับ ยังไม่เปิดเปิดเผยต่อสาธารณะแต่อย่างใด การนำรายชื่อบุคคลต่างๆมาเปิดเผยย่อมเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ประกอบตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.2544 ได้

“อีกทั้งในวันดังกล่าวมีบุคคลหลายคนได้ทำเรื่องขออนุมัติ เพื่อเดินทางไปร่วมพิธีเปิดอาคารโรงฝึกกีฬาเอนกประสงค์ ของมหาวิทยาลัยการกีฬาฯ วิทยาเขตยะลา แต่เหตุใดจึงปรากฎรวมกลุ่มกันเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ในวันเดียวกันกับการขอไปราชการที่จ.ยะลา ได้ พฤติการณ์และการกระทำของ 35 ผู้บริหารมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติดังกล่าว อาจมีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 และเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ ตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 เนื่องจากนำเวลาราชการ และค่าใช้จ่ายในการเดินทางซึ่งเป็นงบประมาณแผ่นดินของทางราชการไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน อันมิได้เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของทางราชการแต่อย่างใด” นายศรีสุวรรณ กล่าวและว่า ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้นำความมายื่นร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวฯ เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเอาผิด 35 ผู้บริหาร ม.การกีฬาแห่งชาติทั้งหมด รวมทั้งขอให้สั่งการให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี ม.การกีฬาแห่งชาติ เร่งเสนอรายชื่อผู้ที่ผ่านการสรรหาอธิการบดี ให้สภามหาวิทยาลัยมีมติเลือกและรับรองต่อไป เพื่อให้งานการพัฒนามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้