เทพไท โต้ คนบอกทำประชามติรธน.ครั้งละ 1.5 หมื่นล้าน พูดเกินจริง หวังให้คนรู้สึกไม่ดี

“เทพไท”ชี้งบทำประชามติ ใช้ไม่ถึง1.5หมื่นล้าน เชื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้จ่ายหมุนเวียนในประเทศ

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระแสข่าวการใช้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นตัวเลขงบประมาณที่คาดการณ์กันไว้ ของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ จากข้อเท็จจริงการใช้งบประมาณของคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งทั่วไปหรือการทำประชามติ ก็จะใช้วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาทเท่านั้น และการทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ถ้าดูจากไทม์ไลน์ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล พบว่าจะมีการทำประชามติ1ครั้ง ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยเท่านั้น ดังนั้นการที่บางฝ่ายพยายามพูดถึงวงเงิน 15,000 ล้านบาทต่อการทำประชามติ1ครั้ง เป็นการประเมินวงเงินงบประมาณที่เกินจริง เพื่อต้องการก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีในหมู่พี่น้องประชาชนมากกว่า

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเห็นว่าการทำประชามติไม่ว่าจะใช้วงเงินงบประมาณมากน้อยแค่ไหน ก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เหมือนกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้เม็ดเงินหลายแสนล้านบาทของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพราะฉนั้นการทำประชามติก็สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน เพราะมีการจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้กับเจ้าหน้าที่ มีการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ในการลงมติ มีการจัดพิมพ์เอกสารเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการลงประชามติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการใช้จ่ายภายในประเทศ มีการนำเม็ดเงินทั้งหมดมากระจายเป็นรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ ซึ่งแตกต่างกับ โครงการการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่เม็ดเงินงบประมาณต้องไหลออกนอกประเทศ ไม่ได้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือนำเม็ดเงินมาใช้จ่ายหมุนเวียนภายในประเทศแต่อย่างใด ดังนั้นการใช้เงินงบประมาณทำประชามติในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนด้านการพัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเลขงบประมาณได้ การใช้งบประมาณเพื่อสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศ ไม่ว่าจะใช้วงเงินมากน้อยแค่ไหน ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในประเทศของเรา