“ชวลิต” ชื่นชม “คำนูณ” แก้ รธน.ได้หรือไม่ อยู่ที่ประชาชน

วันที่ 14 กันยายน 2563 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นต่อประเด็นการแก้ไข รธน.และปัญหาการชุมนุมทางการเมือง ที่มีความเห็นมากมายจากหลายภาคส่วน ดังนี้

1. ขอชื่นชมนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.ที่มีความเห็นต่อการแก้ไข รธน.ในประเด็นต่าง ๆ สรุปว่า สุดท้ายก็ต้องทำประชามติ ฟังเสียงประชาชน จึงไม่ควรตีตกประเด็นที่ขอแก้ไข รธน.ไปเสียแต่ต้น

2. เป็นที่ทราบกันดีว่า รธน.ปี 60 เมื่อใช้มาระยะหนึ่งแล้ว พบข้อบกพร่องมากมาย โดยเฉพาะความไม่เป็นธรรมทางการเมือง ส่งผลให้การเมืองไม่มีเสถียรภาพ และที่สำคัญที่สุด คือ ส่งผลให้ประเทศของเราขาดความเชื่อมั่นทางการเมือง จากการที่ประเทศขาดความเชื่อมั่นทางการเมือง ช่วง 6 ปีเศษที่ผ่านมา เราถึงย่ำแย่ไปหมดทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ผมไม่เคยโทษ ส.ว.ท่านใดเลย โดยเฉพาะ ส.ว.ส่วนใหญ่เป็นเป็นผู้ใหญ่ในภาคราชการ และภาคเอกชน ซึ่งในการทำหน้าที่ ท่านเป็นผู้ใช้กติกาตาม รธน. เป็นปลายเหตุ ถ้าจะโทษ ต้องโทษคนร่าง รธน.และผู้สั่งให้ร่าง รธน.เพื่อการสืบทอดอำนาจ จนเกิดความไม่เป็นธรรมในบ้านเมือง ซึ่งความจริงทั้งคนร่าง รธน.และคนสั่งให้ร่าง รธน. ควรรับผิดชอบกับบ้านเมือง กับประชาชน ที่สร้างกติกาพิสดาร ที่ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน นอกจากประเทศไทย

3. ผมได้มีโอกาสคุยกับ ส.ว.หลายท่าน ท่านบ่นน้อยใจ ท่านก็เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยตาม รธน.เหมือนกัน รักชาติ บ้านเมือง รักและเป็นห่วงลูก หลาน ที่มาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนกัน
ส.ว.ส่วนหนึ่ง เคยเป็น สนช.มาแล้ว และจำนวนมากเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นเอกชนที่มีชื่อเสียง มิได้ยึดติดกับตำแหน่ง ส.ว. เพียงแต่จะแก้ไขประเด็นใด ควรให้เกียรติกัน โอภาปราศรัยกัน สุดท้ายก็ต้องฟังเสียงประชาชน

4.ในการสร้างความเชื่อมั่นของประเทศทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองไม่ให้ปัญหาต่าง ๆ จมลึกไปกว่านี้ ผมเห็นว่า เวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฯ แม้จะตั้งใจทำงาน
ก็ไม่อาจประคับประคองบ้านเมืองต่อไปได้ ต่อจากนี้ไป มีแต่จะทรุดลง ๆ สัญญาณอันตรายทางด้านเศรษฐกิจโผล่ให้เห็นทั้งสถานะทางการคลังของรัฐบาลกลาง ท้องถิ่น และประชาชน

“ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นประเทศทางด้านการเมือง และจะเป็นปัจจัยสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมือง ทั้งในสภา ฯ และนอกสภา ฯ ได้เป็นอย่างดี” นายชวลิต กล่าวทิ้งท้าย