อดีต สมช.ชี้ทางออกประเทศเวลานี้คือประชามติ แก้ไขวิกฤติแบบมีความชอบธรรม ไม่มีใครกล้าขวาง

เสาร์12ก.ย.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวย้ำว่าวิกฤติการณ์การเมืองของประเทศประชาธิปไตย ไม่เคยพบทางตัน หลักความชอบธรรมกอปรด้วยการเคารพอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยรูปแบบที่นำมาปฏิบัติ คือการทำประชามติ เพื่อให้รู้คำตอบที่ประชนชนคนส่วนใหญ่ต้องการให้ทำ ถือเป็นฉันทานุมัติที่สังคมน้อมรับ ใช้เป็นทางออกจากวิกฤติการณ์ร่วมกันที่ได้ผลเสมอมา เครื่องมือหลักที่ใช้ทำประชามติ ก็คือตัวบทกฎหมายการทำประชามติ ซึ่งประเทศอารยประชาธิปไตย เขากำหนดแนวทางปฏิบัติไว้เป็นสากล ยึดเกณฑ์ว่า ผลคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ของจำนวนประชาชนผู้มีสิทธิมาลงประชามติ ถือเป็นฉันทานุมัติของเสียงคนส่วนใหญ่ แต่ถ้าได้เสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง ก็ให้จัดทำประชามติครั้งที่สอง ผลออกมาว่าฝ่ายใดได้คะแนนเสียงสูงสุด แม้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ ถือว่าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะ ได้รับฉันทานุมัติว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ ส่วนการริเริ่มร้องขอทำประชามตินั้น สามารถยื่นร้องขอได้ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และภาคประชาชน โดยใช้จำนวนผู้ยื่นร้องขอเป็นตัวเลขที่ไม่มาก เพราะเขายึดสิทธิเสรีภาพของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริงเป็นตัวตั้ง จึงไม่เป็นเงื่อนไขที่ยากต่อการดำเนินการ

สถานการณ์ทางออกวิกฤติการณ์บ้านเมืองของเรา กำลังก้าวย่างมาถึงจุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมประชาชนปลดแอก มุ่งลุกฮือขับนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจ ให้พ้นจากเก้าอี้ไป แล้วเกิดนายกฯคนใหม่ ซึ่งจะเป็นผู้นำที่พึงนำแนวทางการทำประชามติ มาเป็นทางออกให้กับประเทศ เริ่มต้นด้วยการออกกฎหมายการทำประชามติอย่างรวดเร็ว โดยใช้กฎเกณฑ์เหมือนสากล นำมาเป็นมิติใหม่ของการขับเคลื่อน บ่งชี้ถึงวิถีการแสวงหาคำตอบทางออกอย่างเห็นพ้องร่วมกันของสังคม ได้ผลลัพธ์คือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ที่มีความชอบธรรมรองรับ โดยมิอาจมีผู้ใดมากล้าขวางลำ