เมื่อวันที่ 11 กันยายน นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ประชาธิปัตย์ ตอบโต้ กรณี น.ส.พัชรินทร์ ซําศิริพงษ์ ส.ส. กทม.และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางส่วนที่ลงชื่อในญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ว่าไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล แต่ธรรมเนียมปฏิบัติและหลักการทํางานร่วมกันรวมถึงมารยาททางการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคต้องยึดมติวิปรัฐบาลเป็นหลักนั้น

นายอันวาร์ สาและ กล่าวว่า ทราบข่าวแล้วจากสื่อจั่วหัวเล็กว่า “พปชร. ฉะ ไร้มารยาท แหกมติวิป” ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่รุนแรงมากจะไม่ชี้แจงก็คงไม่ได้ เพราะเป็นคนหนึ่งที่ลงชื่อและก็จะไม่ถอนด้วย เพราะเดิมพรรคไม่เคยมีมติใดๆเนื่องจาก ส.ส.พนิช วิกิตเศรษฐ์ ได้สอบถามถึงสองครั้งในที่ประชุมพรรคเมื่อวันอังคารที่ 1 กันยายน  2563 โดยมีผู้บริหารของพรรคร่วมประชุมอยู่ด้วย ตนและเพื่อนส.ส.จึงได้ร่วมลงชื่อในญัตติเพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในใจตลอดเวลา ภายหลังพรรค มีมติที่จะเสนอร่างเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อความเป็นเอกภาพนั้น ท่านประธานวิปนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ก็ได้ ให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่กดดันให้ถอนชื่อ แต่ต้องรับผิดชอบหาคําตอบให้สังคมเอง

“ผมจึงไม่ได้ถอนเพราะเป็นจุดยืนในเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งหากถอนจะทําให้ผมและพรรคเกิดความเสียหายในภาพพจน์ จะเห็นได้ว่าท่านประธานรัฐสภานายชวน หลีกภัย ก็รู้สึกได้ในปัญหาเรื่องภาพพจน์ จึงรีบออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้กดดันส.ส.ประชาธิปัตย์ให้ถอนชื่อในญัตตินี้ และผมก็ไม่ได้ฝ่าฝืนมติของพรรคแต่อย่างใด นี่คือข้อเท็จจริงว่ามติพรรคออกมาภายหลัง ทั้งหมดเป็นเรื่องภายในของพรรค คนนอกที่ไม่รู้เรื่องกลับมาให้สัมภาษณ์ตําหนิว่าไม่รู้จักมารยาทในการร่วมรัฐบาล สังคมจะคิดได้เองว่าเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏเช่นนี้ ใครกันแน่ที่ไร้มารยาทและคุกคามให้พรรคการเมืองอื่นต้องปฏิบัติตามในสิ่งที่ฝืนต่อความรู้สึกของสังคม”นายอันวาร์กล่าว

นายอันวาร์กล่าวอีกว่า สุดท้ายอยากจะบอกกับคนนอกพรรคให้เข้าใจว่า สังคมทั่วไปทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจ้าของ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็นซึ่งอาจจะแตกต่างกัน แต่เราก็หาข้อยุติร่วมกันได้ ซึ่งหากข้อยุตินั้น สังคมไม่เห็นด้วยก็จะแสดงออกด้วยการลงโทษในช่วงที่มีการเลือกตั้งเหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2562  ตนและสมาชิกพรรคยอมรับบทลงโทษที่รุนแรงจากสังคม ที่เราละเลยต่อหน้าที่นักการเมือง ที่จะต้องยืนเคียงข้างประชาชนและต้องทําในสิ่งที่ประชาชนต้องการคือทําในสิ่งถูกให้เป็นถูกและผิดให้เป็นผิด “ผมและสมาชิกพรรค มั่นใจว่าพวกเราเดินมาถูกทางแล้วจะเห็นได้จากกรณีเรื่อง “บอสกระทิงแดง” ที่มีผู้มีอํานาจจะทําในสิ่งผิดให้เป็นถูก จึงเกิดปัญหาวิกฤตของกระบวนการยุติธรรม”