“ประยุทธ์” ชูไทยต้องมาก่อน ชี้ประเทศติดกับดักประชาธิปไตย ถามกลับอะไรคือหน้าที่

ที่มาภาพ: ทำเนียบรัฐบาล

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงปาฐกถา “บทบาทของมหาวิทยาลัยไทยต่อ Thailand 4.0” โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟังด้วย

 

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันแห่งการเปลี่ยนแปลง ทุกคนคืออนาคต รัฐบาลวางยุทธศาสตร์ชาติไว้ 20 ปีข้างหน้า ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเดินให้ตรงตามทั้งหมด เพียงแต่เราตีกรอบกว้างๆ ไว้ 6 ด้าน และได้เริ่มทำไปทั้งหมดแล้ว ส่วนรัฐบาลหน้าจะเป็นอย่างไร เราคงไปบังคับกันไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการบริหาร เป็นเรื่องของประชาชนทุกคนที่จะเลือกรัฐบาลใหม่เข้ามา เพื่อทำสิ่งที่เราวางกรอบไว้ให้ได้ วันนี้เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองและความคิดต่างๆ ทั้งหมด เพื่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศ คงไม่มีใครไม่อยากเห็นประเทศไทยเจริญก้าวหน้า หรือไม่อยากให้ประเทศเป็นมหาอำนาจ ทั้งทางประชาธิปไตย มหาอำนาจทางความคิด ทางการทหาร และไม่ได้มีเพียงเพื่อเป็นมหาอำนาจทางการรบเพียงอย่างเดียว แต่เรามีไว้เพื่อป้องกันตัวเองให้ได้ก่อนเท่านั้น

 

“เราต้องเผชิญหน้า และหามาตรการป้องกันและรับมือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความขัดแย้งของโลกวันนี้ การก่อการร้าย โรคระบาด เรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ ฯลฯ ทุกคนต้องปรับตัว จะอยู่หรือเดินแบบเดิมไม่ได้แล้ว การที่เราก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 นั้น อย่าไปกังวล ทุกอย่างต้องเดินไปได้ และไปพร้อมกัน โดยจะไม่ทิ้งส่วนใดส่วนหนึ่งไว้ ยืนยันว่ารัฐบาลคำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยมากที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างเศรษฐกิจใหม่ขึ้นมา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ที่มาภาพ: ทำเนียบรัฐบาล

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ผ่านมาเราติดกับดักเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ติดกับดักการกระจายรายได้ การเจริญเติบโต และการติดกับดักความเหลื่อมล้ำและความไม่สมดุล ซึ่งไทยแลนด์ 4.0 เราต้องปลดล็อกตรงนี้ให้ได้ ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดวาทกรรมเรื่องคนรวยคนจน รายได้ไม่เท่าเทียม การเอื้อประโยชน์ การทำงานรัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ถ้ารัฐบาลทำฝ่ายเดียวโดยไม่ฟังเสียงจากฝ่ายอื่นๆ ก็จะเกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมาในอดีต ถ้าเราได้คนไม่ดีมาดูแลก็จะเกิดปัญหาเดิมๆ เราจึงจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในแต่ละองค์กรให้ได้

 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้หลักการสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินคือ สร้างความเข้มแข็งจากภายในเชื่อมโยงไปสู่ประชาคมโลก การคาดหวังที่จะเพิ่มจีดีพีให้สูงขึ้น จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ถ้าเรายังทำเหมือนเดิม หากสินค้าเราไม่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่สามารถแข่งขันกับใครได้ การส่งออกก็จะลดลง ก็จะกลายเป็นว่าเราติดกับดักแบบเดิม ประเด็นสำคัญก็จะติดกับดักประชาธิปไตยของประเทศไทย 85 ปีผ่านมาแล้วที่เรามีประชาธิปไตย เราไปไกลในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ แต่เราต้องกลับมาดูว่า หน้าที่ต่อตัวเอง ต่อสังคมประเทศชาติ คืออะไร อย่าปล่อยให้สุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง

 

“ผมไม่ได้ต้องการไปควบคุมอะไรใครเลย ผมต้องการความคิดเห็นจากทุกคนในทางสร้างสรรค์ มากกว่าการสร้างความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น วันนี้สถานการณ์โลกมีการเจริญเติบโตลดลง เศรษฐกิจโลกลดลง จีดีพีโลกและอาเซียนลดลง ขณะเดียวกันทุกๆ ประเทศพยายามปรับตัวเพื่อเป็นโลกยุคใหม่ หลายประเทศก้าวไปสู่การเป็นชาตินิยม หรือประเทศตัวเองต้องมาก่อน แล้วเมื่อไรเราจะทำให้เป็นไทยแลนด์เฟิร์สต์ขึ้นมาบ้าง แต่เราจะเลือกอยู่ข้างใครคนหนึ่งไม่ได้ เราจะต้องไปด้วยกัน เราจะต้องอยู่ในจุดที่เหมาะสม ได้ประโยชน์จากทุกอย่าง

ที่มา: มติชนออนไลน์