22ส.ค.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากลุ่มประชาชนเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมบางกลุ่ม ได้ให้แง่คิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ทุกฝ่ายรู้อยู่แก่ใจว่าได้ขาดความชอบธรรมไปแล้ว จึงมีคำถามตามมาว่า มันจำเป็นอย่างยิ่งยวดด้วยหรือ ที่ต้องยึดกระบวนการแก้ไขตามกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เปรียบเทียบกับการยึดอำนาจยังฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งได้ และเขียนรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ มาล้างโทษตัวเองได้อีกด้วย ก็ในเมื่อประเทศแม่แบบประชาธิปไตย เขาใช้รัฐธรรมนูญแบบไม่เป็นลายลักษณ์อักษร นั่นหมายความว่า เขายึดหลักความชอบธรรม ประเพณีที่ดีงาม และความเป็นอารยชน ผ่านการทำประชามติ ออกมาเป็นฉันทานุมัติของประชาชนคนส่วนใหญ่ เจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง แล้วนำมาเป็นตรรกะเหตุผลในการออกกฎหมาย เพื่อใช้บริหารปกครองประเทศ เขาจึงไม่ติดกับดักรัฐธรรมนูญจอมปลอมแบบบ้านเรา

ดังนั้นถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มันไม่ต้องไปถึงการทำรัฐประหารหรือปฏิวัติประชาชนหรอก เพียงกล้าหาญ เปิดศักราชริเริ่มคิดใหม่ทำใหม่ ทำเลียนแบบประเทศแม่แบบประชาธิปไตย มันก็ได้รูปธรรมทางออกแล้ว เริ่มด้วยการยึดหลักความชอบธรรมตามปรัชญา ของครรลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่รัฐธรรมนูญทุกฉบับได้บัญญัติไว้เสมอมา คืออำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย กับประเพณีการปกครองประชาธิปไตยของไทย นำมาอ้างอิงอธิบายเป็นเหตุผลความจำเป็น ในการนำรัฐธรรมนูญในอดีตที่มีความชอบธรรม เช่นของปี40 มาปรับแก้ให้มีสาระคุ้มครองการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ เกิดเป็นรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับชั่วคราว ช่วงการเปลี่ยนผ่านไปก่อน เพื่อใช้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ได้รวดเร็ว ซึ่งวิธีการจัดการอยู่ในวิสัยที่สังคม จะใช้การมีส่วนร่วมแสวงหาข้อยุติ พบทางออกอย่างลงตัวได้ แล้วจบลงด้วยการทำประชามติซ้ำใหม่ด้วยรูปแบบที่สากลเขาเชื่อถือ ได้ผลลัพธ์เป็นฉันทานุมัติของประชาชนคนส่วนใหญ่ เราก็จะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ที่มีความชอบธรรมเป็นรูปธรรม นำมาคลี่คลายวิกฤตการณ์ของประเทศ เฉกเช่นอารยประเทศประชาธิปไตยเขากระทำกัน พ้นจากกับดักรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจอย่างภราดรภาพ