เกิดอะไรขึ้นบ้าง? หลัง ‘ เพนกวิน พริษฐ์ ‘ โดนจับ มาจนถึงมวลชนปักหลักให้กำลังใจหน้า สน.สำราญราษฎร์

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม จากกรณีที่ เพนกวิน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงหมายจับศาลอาญา เข้าจับกุมตัว ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ รวม 7 ข้อหา เช่นเดียวกับกรณีของ นายอานนท์ นำภา ซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม

เวลา18.50 น. ที่สน.สำราญราษฎร์ เจ้าหน้าที่คุมตัวนายพริษฐ์ มายังโรงพัก โดยมีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังรอบบริเวณพื้นที่อย่างเข้มงวด พร้อมตรวจบัตรเข้าออกและห้ามประชาชนทั่วไปเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาจารย์ จากคณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ได้แก่ นายประจักษ์ ก้องกีรติ และ นางสาวชาลินี สนพลาย เดินทางไปติดตามสถานการณ์ ที่สน.สำราญราษฎร์ เพื่อรอประกันตัว รวมทั้ง มีนักการเมือง ส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น , นายสมคิด เชื้อคง , นายเพื่อไทย , นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.ก้าวไกล , นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.ก้าวไกล เดินทางไปสังเกตการณ์ พร้อมแสดงเจตจำนงที่จะประกันตัวด้วย

จนกระทั่งเวลา 20.00 น. ที่ สน.สำราญราษฎร์ พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผบช.น.แถลงชี้แจงกรณีการจับกุมนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ ว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยซึ่งเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย และมีการร้องทุกข์ไว้ กระทั่งวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมนายอานนท์ กับนายภาณุพงษ์ ตามหมายจับศาลอาญา ก่อนได้รับการประกันตัวไป วันนี้ตำรวจได้จับกุมนายพริษฐ์ ซึ่งเป็นแกนนำอีกราย หลังรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ยืนยันว่า การดำเนินคดีเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ พร้อมแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบ และตรวจร่างกายโดยแพทย์ ยืนยันว่าหลังสอบปากคำเสร็จสิ้นจะคุมขังที่สน.สำราญราษฎร์ ตามกรอบกฎหมาย 48 ชั่วโมงก่อนส่งตัวฝากขังที่ศาลอาญาฯรัชดา ซึ่งขณะนี้มารดานายพริษฐ์ กับทนายความก็อยู่ดูแลด้วย

ทั้งนี้ระหว่างการแถลงข่าวได้มีมวลชนฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามาตะโกนใส่รองผบช.น.ว่า “shame” (แปลว่าน่าละอาย) ต่อมานายพริษฐ์ กล่าวกับมวลชนผ่านกระจกห้องสอบสวนว่าตนสบายดี ส่วนเหตุผลที่ตำรวจจับกุมนั้นเป็นเพราะเขากลัวข้อเสนอ 10 ข้อ

ขณะเดียวกัน ประชาชนจำนวนมากกว่าร้อยคน เดินทางไปให้กำลังใจ ที่สน.สำราญราษฎร์ แต่เจ้าหน้าที่นั้น นำรั้วมากั้นและไม่อนุญาตให้เข้าไปภายใน ทำให้ประชาชนขอเจรจากับตำรวจ ขอไปเข้าห้องน้ำ และมีกระแสไม่พอใจ ที่จะนำตัวเพนกวินไปสอบสวนที่ สน.ตลิ่งชัน พร้อมเปล่งเสียง ปล่อยเพื่อนเรา โดยมวลชนยังได้ปักหลัก ปราศรัยหน้าสน.อีกด้วย นอกจากนี้ นายพริษฐ์ ยังได้ออกมาเปิดหน้าต่าง ชูสามนิ้ว ให้กับมวลชนที่มารอหน้าสน.และกล่าวว่า “ผมดูแลตัวเองได้ แต่ขอให้เราพูดความจริง” ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวกลับเข้าไป

โดยประชาชนได้เสนอข้อเรียกร้องต่อ พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ไว้ 2 ประการ โดยข้อแรก คือ ขอเข้าไปใช้ห้องน้ำ เพราะปวดปัสสาวะ และข้อ 2.ไม่ให้นำเพนกวินไปคุมขังที่ สน.ตลิ่งชัน หลังเพนกวินได้โพสต์เพจเฟซบุ๊กไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนพากันตะโกนว่าปล่อยเพื่อนเรา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้ไปใช้ห้องน้ำของกทม.

อย่างไรก็ตาม จากกระแสข่าวต่างๆ เพนกวิน ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า “สรุปไม่ย้ายนะครับ คืนนี้อยู่ที่สน.สำราญราษฎร์ พรุ่งนี้ เวลา 9.00 น.จะมีการนำตัวไปที่ศาลอาญารัชดา”

สำหรับบรรยากาศ หน้า สน. ประชาชนต่าง หมุนเวียนกันมาปราศรัย แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ไมค์ – ภาณุพงศ์ จาดนอก เรียกร้องให้ปล่อยตัวเพนกวิน และกล่าวว่า ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินคดี ขณะที่คดีขับรถชนคนตายนั้น ต้องออกหมายเรียกถึง 11 ครั้ง และขอให้ผู้มีอำนาจลงมายืนยันว่า เพนกวินจะปลอดภัยในคืนนี้

โดยผู้ปราศรัยรายหนึ่ง กล่าวว่า หากไม่มีเหตุการณ์เหล่านี้ คนอื่นน่าจะได้รณรงค์เรื่องความหลากหลายทางเพศ หรือ เรื่องสวัสดิการของรัฐ บริการทางการแพทย์ อยากให้คุยเรื่องนโยบายต่างๆ อย่างนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐที่หาเสียงไว้ ทำได้หรือไม่ ทำไมถึงไม่ทำ คิดจะทำเรื่องนี้บ้างไหม หรือต้องการคุกคามประชาชนอย่างเดียว อยากเห็นสังคมดีกว่านี้ ปล่อยเพนกวินเถอะ และคนจะจดจำในฐานะ เพื่อนของประชาชน

นอจากนี้ ยังมี โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา ที่มาร่วมปราศรัยด้วย พร้อมกันนี้ ด้านข้างของสน. เจ้าหน้าที่ยังได้จัดเตรียมกำลังอีกจำนวนหนึ่ง

ต่อมา แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้ออกแถลง โดย ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า การจับกุมในวันนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการปราบปรามสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมอย่างสงบโดยรัฐ แทนที่จะให้ความคุ้มครองกับผู้ชุมนุมโดยสงบ ตำรวจกลับใช้กฎหมายปราบปราม เสมือนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อปิดปากผู้แสดงความเห็นหรือวิจารณ์รัฐบาลอย่างสงบ

“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องทางการให้ปล่อยตัวพริษฐ์ ชิวารักษ์ โดยทันที รวมทั้งยกเลิกข้อหาทั้งหมด ทั้งต่อนักกิจกรรมอีก 2 คนที่ถูกจับเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว พร้อมกับผู้ประท้วงคนอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาเพียงแต่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เรายังกระตุ้นทางการให้หาช่องทางสื่อสารในทางเลือก หรือริเริ่มการเจรจากับผู้ประท้วง โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ

“ความถดถอยด้านสิทธิมนุษยชน นับแต่รัฐบาลปัจจุบันเข้าดำรงตำแหน่ง เป็นปรากฏการณ์ที่น่าตกใจอย่างยิ่ง พื้นที่ของการเคลื่อนไหวและการแสดงออกอย่างสงบ จะยิ่งหดตัวลงมากขึ้น หากประชาคมระหว่างประเทศไม่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยทันที”