15ส.ค.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงท่าทีของนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจ ที่เพิ่งออกโทรทัศน์ที่ผ่านมา เป็นการอวดตัวว่ามองข้ามการชุมนุมเรียกร้องของขบวนการนักศึกษาไปแล้ว แต่มองไปถึงการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ แต่หารู้ไม่ว่าสังคมเขากลับมองว่า นายกสืบทอดอำนาจใช้รูปแบบเดิมๆ คือทิ้งวิกฤตหนึ่ง แล้วไปก่อวิกฤติใหม่ การที่นักศึกษาถูกคุกคามที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นประการใด แสดงถึงความไม่ใยดีต่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งมันจะเป็นหัวเชื้อส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นประเทศที่ไม่มีความปลอดภัย ประกอบกับการชุมนุมของเหล่านักศึกษาและภาคประชาชน ที่ดำรงความต่อเนื่อง กระจายตัว ไร้ร่องรอยตัวแกนนำ ท่าทีที่รัฐบาลไม่สนใจแสดงความรับผิดชอบต่อข้อเรียกร้องให้ยุติการคุกคาม จะเป็นปัจจัยให้เกิดตัวคูณเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างมโหฬาร เพราะนอกเหนือจากนักศึกษาแล้ว จะสมทบมาด้วยครอบครัวญาติพี่น้องที่ห่วงใย และเชื่อมั่นตัวลูกหลานของเขา บวกกับแนวร่วมจากภาคประชาชนต่างๆอีกมากมาย นำพาสถานการณ์เดินใกล้ไปสู่จุดที่บรรยากาศของประเทศมืดมิด เมื่อนั้นการค้าการลงทุนจะสดุดหยุดลง

ยิ่งนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจหลงยุคมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเสียเอง ซึ่งขณะนี้ถือเป็นบุคคลล้มละลายในคำพูด ในสายตาของคนไทยและต่างประเทศไปแล้ว แถมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ ดูจะแย่ยิ่งกว่าชุดเดิมไปด้วยซ้ำ ดังนั้นคำตอบปลายทางของสถานการณ์ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ คาดการณ์ได้เลยว่า นายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจจะพบจุดจบ ด้วยการถูกประชาชนผู้รักประชาธิปไตยเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง ผนึกกำลังกดดันจนไปต่อไม่ได้ในท้ายที่สุด