วันที่ 14 สิงหาคม 2563 เดลีเมล์ รายงานสถานการณ์ โรคโควิด-19 ใน ประเทศอังกฤษ ที่ส่อวิกฤต หลังจาก บริษัทกรีนคอร์กรุ๊ป ผู้ผลิตแซนด์วิชยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกกับจำนวนแซนด์วิชที่ส่งซูเปอร์มาร์เก็ตชั้น มากกว่า 17 ล้านชิ้นต่อปี

แถลงว่าคนงานเกือบ 300 คนของโรงงานในเขตอุตสาหกรรมโมลตันปาร์ก อินดัสเทรียล เอสเตท เมืองนอร์ทแธมป์ตัน ติดไวรัสมรณะ เบื้องต้นดำเนินการแยกกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการและยับยั้งการแพร่กระจายไวรัสในวงกว้าง

ขณะที่จำนวนผู้ป่วยสะสมในสหราชอาณาจักรเพิ่มเป็น 313,798 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในอังกฤษราว 267,000 คน สกอตแลนด์ 19,027 คน เวลส์ 17,451 คน และไอร์แลนด์เหนือ 6,225 คน ส่วนผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดมีอย่างน้อย 41,347 ราย

แถลงการณ์ของกรีนคอร์กรุ๊ประบุว่า “จากจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่นอร์ทแธมป์ตัน เราตัดสินใจทำการตรวจหาเชื้อแบบเชิงรุกในพนักงานทั้งหมดของโรงงานที่นอร์ทแธมป์ตัน เราสามารถยืนยันจำนวนคนงานที่มีผลตรวจเป็นบวกซึ่งตอนนี้แยกกักตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เราประสานงานกับพีเอชอี (สำนักงานสาธารณสุข) อีสต์มิดแลนด์ส สภามณฑลนอร์ทแธมป์ตันเชอร์ และสภาเขตนอร์ทแธมป์ตัน ซึ่งให้ความสนับสนุนและควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงงานของเรา”

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นเปิดเผยว่าคนงานที่ป่วยมีทั้งหมด 292 คน ในจำนวนนี้ 213 คนพบติดเชื้อผ่านการตรวจตัวอย่างจากโพรงจมูกและคอ (Swab) ที่กรีนคอร์กรุ๊ปดำเนินการ และอีก 79 คนพบผลเป็นบวกจากการตรวจในระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส)

ทั้งนี้ พีเอชอียกระดับเมืองนอร์ทแธมป์ตันเป็น 1 ใน 29 พื้นที่เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เนื่องจากพบผู้ผ่วยใหม่ต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัปดาห์ก่อนมีผู้ติดเชื้อใหม่รวม 85 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่มีผู้ป่วยใหม่ 66 คน

ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อใหม่ในนอร์ทแธมป์ตันสูงขึ้นเป็น 29.8 คนต่อประชากร 100,000 คนต่อสัปดาห์ และมีความเสี่ยงว่าทางการท้องถิ่นอาจบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่เช่นเดียวกับอีกหลายเมืองที่เผชิญวิกฤตโรคโควิด-19