เสี่ยเฮ้ง เผยวาระเร่งด่วนตั้ง ‘ศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ’ สยบเกาเหลา ‘นฤมล’ อยู่กันแบบพี่น้อง

‘เสี่ยเฮ้ง’ เผยวาระเร่งด่วน ตั้ง ‘ศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ’ แก้ปัญหาครบวงจรฟื้นเศรษฐกิจไทย ลั่นชอบของยาก สยบเกาเหลา ‘นฤมล’ อยู่กันแบบพี่น้อง

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่กระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน นำข้าราชการระดับสูงแถลงข่าวเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่กระทรวงแรงงาน ว่า ตนและครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและว่าเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง วันนี้ประเทศชาติเกิดวิกฤตโควิด-19 เกิดปัญหาว่างงาน ซึ่งตนได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาด้านแรงงาน

สำหรับนโยบายเร่งด่วนคือ การตั้งศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ ซึ่งตนจะเป็นประธานและทำงานร่วมกับรัฐมนตรีช่วยและบูรณการทำงานกับภายในหน่วยงานและภายนอกกระทรวง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงศึกษาธิการ และหารือกับ ครม.เศรษฐกิจ เพื่อทุกหน่วยช่วยกันทำงานในเชิงรุก พร้อมน้อมนำแนวเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางปฏิบัติงาน ทั้งนี้ จะมีการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันทุกหน่วยงาน เช่น การ Matching ระหว่างคนว่างงานกับการมีงานทำ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่จบใหม่และคนว่างงานที่จะได้งานทำอย่างเหมาะสม ซึ่งร่วมถึงคนไทยที่ยังว่างงานอยู่ ที่จำเป็นที่จะต้องทำในเรื่องของการอัพสกิล/รีสกิล เพื่อให้มีทักษะการทำงานที่สูงขึ้น ขณะที่ ตลาดต่างประเทศต้องการคนทำงานช่างเชื่อม ซึ่งคนไทยมีทักษะในเรื่องนี้ดี รวมถึงการเสริมทักษะอาชีพและภาษาต่างประเทศด้วย ตลอดจนการพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ทันสมัยมากขึ้น

นอกจากนี้ ตนยังให้ความสำคัญกับเรื่องการปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคประมง โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยขึ้นมาอยู่ในระดับเทียร์ 1 ให้ได้ ขณะเดียวกัน เจ้าของสวนจังหวัดจันทบุรีที่ต้องการนำเข้าแรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานแต่ยังนำเข้าไม่ได้เกรงการระบาดของโรค จึงอยากให้ข้าราชการทำความเข้าใจกับเจ้าของสวน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในประเด็นเรื่องของการเลิกจ้าง ซึ่งเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบจากโควิด-19 ตนให้ความสำคัญกับเรื่องของการป้องกันการตกงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ อยากให้ข้าราชการในส่วนภูมิภาคลงพื้นที่ให้คำแนะนำกับนายจ้างให้เข้าถึงมาตรการการช่วยเหลือของรัฐในเรื่องต่างๆที่เป็นช่องทางของการพยุงธุรกิจและเกิดการจ้างงาน ทั้งนี้ ตนไม่ได้มาเป็นนาย แต่มาเป็นผู้รับใช้แรงงาน โดยจะตั้งใจทำงานและจะทำตามระเบียบของกฎหมาย เพื่อให้เกิดแนวทางที่ถูกต้องไม่ให้เกิดปัญหากับราชการ ทั้งนี้ เชื่อว่า ภายหลังจากการพูดคุยและกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันแล้วจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ โดยในวันจันทร์ที่ 17 ส.ค.63 เวลา 14.00 น. จะมีการประชุมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกระทรวง

“ผมมาอยู่กระทรวงนี้ ผมไม่อยากเหมือนปลาตาย ผมเป็นปลาเป็นที่ต้องว่ายทวนน้ำ ชอบทำเรื่องยากๆ และจะต้องทำให้ได้” รมว.แรงงานกล่าว และว่า ตนเชื่อมั่นในตนเองและข้าราชการ ที่จะพยายามแก้ไขปัญหาแรงงานและจะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยตนเกิดมาจากครอบครัวกรรมกร เมื่อเติบโตก็ได้มีธุรกิจ จึงมีความเข้าใจความยากลำบากของคนงานและผู้ประกอบการ จึงคิดว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง

นายสุชาติ กล่าวถึงการแบ่งงานกับ รมช.แรงงาน ว่า รมช.แรงงาน เป็นคนมีความรู้ความสามารถ ตนยอมรับตัวเองว่าไม่ใช่คนเก่งไม่ได้เป็นดอกเตอร์ ตนเป็นนักธุรกิจกับนักการเมือง ตนมาจากกรรมกร มาจากผู้ใช้แรงงาน ซึ่งตนมีสองขาคือ เกิดจากครอบครัวยากจน ใช้ชีวิตลำบากเป็นกรรมกรจึงรู้ความลำบาก และวันหนึ่งตนมาเป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งส่วนนี้ผมก็ได้รู้ ทั้งนี้ตนได้พูดคุยกับนางนฤมลแล้วว่าสิ่งใดที่ตนไม่รู้ก็ให้ช่วยในส่วนนั้น เพราะคนเราไม่ได้ถนัดเหมือนกันหมด ทั้งนี้เราคุยกันได้และคุยกันแบบพี่น้อง ซึ่งเข้ามาเพื่อมาแก้ปัญหาประเทศชาติ

“ส่วนที่สื่อถามว่าจะอยู่กันอย่างไร เพราะที่ผ่านมารมช.แรงงาน ไม่เคยมี วันนี้มีนางนฤมล มาช่วยแล้ว ทีนี้ผมก็ไม่ต้องเชื่อปลัดแรงงาน ก็จะถามรมช.แรงงานแทน ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผม เพราะไม่ได้เก่งทุกเรื่อง แต่อาจจะเก่งในหลักความเป็นจริง การแก้ปัญหาที่ทำประสบการณ์มาใช้ แต่เรื่องวิชาการ การต่างประเทศ ผมก็ต้องให้นางนฤมลมาช่วย อย่างไรก็ตามส่วนตัวเราสนิทกันอยู่แล้ว แต่ที่มีข่าวออกมาว่าเราอยู่คนละตึกก็ไม่ใช่ เพราะผมให้เกียรตินางนฤมลมาตลอดเขาทีมงานเขา และที่นี่ไม่เคยมีรัฐมนตรีช่วย ดังนั้นผมเลยบอกว่าถ้ารัฐมนตรีช่วยเห็นว่าตรงไหนเหมาะสมว่าไปเลย แต่ถ้ายังปรับปรุงไม่ได้ให้มาอยู่กับผมก่อน ชั้นเดียวกัน และเราแบ่งพื้นที่เท่าๆ กัน อยู่กันแบบพี่น้อง ขอสื่อและประชาชนที่สนับสนุนผมและรัฐมนตรีช่วย สบายใจได้ว่าพวกเรามาทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้มาทำเพื่อตัวเอง ส่วนจะแบ่งงานอย่างไรนั้น ตอนนี้ต้องขอคุยส่วนตัวรับรัฐมนตรีช่วย และปลัดแรงงาน ว่าจะทำอย่างไรให้ทำงานกันได้ และทำงานที่แต่ละคนถนัด ซึ่งเราไม่ได้ยึดติด เนื่องจากมีเป้าหมายเดียวกันคือแก้ปัญหาคนตกงาน” นายสุชาติ กล่าว

ด้านนางนฤมล กล่าวว่า ตนคุ้นเคยกับกระทรวงแรงงาน เพราะเคยเป็นที่ปรึกษา พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อดีต รมว.แรงงานมา 3 ปี การกลับมาครั้งนี้ตั้งใจมาทำงานอย่างเต็มที่ เนื่องจากนายกฯตั้งความหวังให้กระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ มาช่วยแก้ปัญหาด้านแรงงานหลังเกิดโควิด-19 โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกดดัน แม้ว่าจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงตนเอง ตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่ง ทั้งนี้พร้อมสนับสนุนการทำงานของ รมว.แรงงาน อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมอบหมายภารกิจใดๆ ก็พร้อมทำอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล