ขอบคุณข้อมูลจาก | ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“หากผมไม่ชนะการเลือกตั้ง จีนจะครองสหรัฐอเมริกา” นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์
วันที่ 11 สิงหาคม 2563 Huffpost รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงใช้คำพูดเชิงเกลียดกลัวชาวต่างประเทศ โดยอ้างถึงจีนว่า หากเขาแพ้การเลือกตั้ง ทุกคนในสหรัฐฯ จะต้องหัดพูดภาษาจีน
เขากล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุว่า “จีนจะครองสหรัฐฯ หากผมไม่ชนะการเลือกตั้ง” พร้อมบอกด้วยว่า “คุณจะต้องหัดพูดภาษาจีน คุณต้องรู้ไว้ด้วย”
การดึงจีนเข้ามาเป็นประเด็นหาเสียงของนายทรัมป์ เริ่มปรากฏขึ้นตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาด โดยผู้นำสหรัฐฯ และพันธมิตรได้พยายามเบี่ยงความสนใจจากการทำงานของทำเนียบขาว โดยโทษว่าจีนทำให้ไวรัสแพร่ระบาดไปทั่วโลก
ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายทรัมป์ได้จำกัดการเดินทางของผู้ที่มาจากเอเชีย และหลายครั้งที่เขาเรียกไวรัสโควิด-19 ว่า ไวรัสจีน พร้อมกดดันให้เจ้าหน้าที่จีนเร่งตอบสนองต่อไวรัส
“จีนกำลังทำงานอย่างหนัก” เขากล่าวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ “พวกเขาทำงานหนักมาก และผมคิดว่าพวกเขาทำงานเป็นมืออาชีพมาก”
“ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงรักคนจีน เขารักประเทศของเขา และเขากำลังทำงานได้ดีมากเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้” นายทรัมป์กล่าวเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์
ด้าน นายโรเบิร์ต โอ ไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ อ้างว่า จีนกำลังพยายามเจาะเข้าสู่ระบบการเลือกตั้งสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้ นายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งสอดคล้องกับที่ นายทรัมป์ พยายามกล่าวโจมตีว่า นายไบเดนให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของจีน
ในการหาเสียงของนายทรัมป์ มีโฆษณาที่ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายล้านคน บดขยี้เศรษฐกิจโลก ประเทศเดียวที่สมควรได้รับโทษคือจีน พวกเขาโกหกเรื่องนี้ ปกปิดเรื่องนี้ และ โจ ไบเดน ประจบจีน
แต่รายงานของ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล เผยว่า เจ้าหน้าที่กล่าวว่า สหรัฐฯ ยังไม่มีข่าวกรองใดที่ชี้ว่า ทางการจีนพยายามแฮ็กเข้าสู่ระบบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งโดยตรง
ขณะที่การหาเสียงเลือกตั้งของนายไบเดนและพรรคเดโมแครต ก็โจมตีนายทรัมป์ โดยย้ำให้เห็นว่า นายทรัมป์ มองข้ามความร้ายแรงของไวรัสโควิด-19 ไป
“นายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีที่อ่อนแอที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับจีน” นายแอนดรูว บาเทส โฆษกรณรงค์หาเสียงของ นายไบเดน กล่าวเมื่อวันอังคาร พร้อมบอกด้วยว่า
“ในขณะที่เกิดวิกฤตด้านสาธารณสุขที่ร้ายแรงสุดในรอบ 100 ปี นายทรัมป์ ยังเอาแต่โฆษณาชวนเชื่อเรื่องพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อลดทอนการคุกคามและความเฉยเมย ไม่สนใจคำเตือนจากหน่วยข่าวกรอง และ นายโจ ไบเดน ไม่ยอมรับในคำพูดของนายทรัมป์ ระหว่างที่สหรัฐฯ ต้องรับผลจากความล้มเหลวของนายทรัมป์ จีนกลับแข็งแกร่งขึ้น แต่ความแข็งแกร่งของพวกเราลดน้อยลง”