“ออมสิน” ให้กู้ฉุกเฉิน พนง.กลุ่มบริการ | ครม.เคาะใช้ พ.ร.ก.เงินกู้เพิ่มอีก 884 ล้าน | ปลดล็อกกัญชาเสรีครอบครองได้แล้ว

แฟ้มข่าว

ปณท เปิดตัวแสตมป์กรมสมเด็จพระเทพฯ

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ออกตราไปรษณียากรที่ระลึกในโอกาสที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญพระชนมายุ 65 พรรษา ในปี 2563 ซึ่งเป็นพระฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์ชุดไทยศิวาลัยสีม่วงซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ ทรงผ้าทรงสะพักประดับเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประกอบอักษรพระนามาภิไธยย่อ “สธ” พิมพ์สี่สีพร้อมเทคนิคปั๊มฟอยล์ทองบริเวณตัวเลขบอกชนิดราคา และคำว่า ประเทศไทย THAILAND โดยจะออกจำหน่ายวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ราคา 5 บาท ซองวันแรกจำหน่าย 14 บาท จำนวนพิมพ์ 800,000 ดวง สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อได้ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร และทางออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ thailandpostmart.com

“ออมสิน” ให้กู้ฉุกเฉิน พนง.กลุ่มบริการ

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งธนาคารออมสินได้ดำเนินการเร่งให้ความช่วยเหลือหลายมาตรการ รวมถึงร่วมบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผ่านการให้สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อบรรเทาผลกระทบ ด้วยโครงการสินเชื่อพิเศษ ตามมติ ครม. เพื่อเสริมสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวไปแล้ววงเงินรวม 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำ ซึ่งยังมีวงเงินเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง ให้กู้สำหรับผู้มีรายได้ประจำ เช่น พนักงานบริษัทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรือธุรกิจบริการ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบ เช่น ตกงาน ถูกลดเงินเดือน ขาดรายได้ เป็นต้น วงเงินกู้สูงสุด 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน ผ่อนชำระไม่เกิน 3 ปี เปิดให้ยื่นเรื่องผ่านเว็บไซต์ธนาคาร www.gsb.or.th ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม-30 ธันวาคมนี้

ครม.เคาะใช้ พ.ร.ก.เงินกู้เพิ่มอีก 884 ล้าน

วันที่ 4 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ดำเนินโครงการเพิ่มเติมภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณภายใต้ พ.ร.ก.ดังกล่าวไปแล้วกว่า 92,400 ล้านบาท ในส่วนของโครงการที่อนุมัติมีทั้งหมด 10 โครงการ รวมวงเงิน 41,949 ล้านบาท ล่าสุดมีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มเติมอีก 157 โครงการ วงเงินกว่า 884 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบาย 6 ด้านที่งบประมาณลงไปแล้วเกิดประโยชน์แก่ประชาชนโดยตรงทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 57 จังหวัด อาทิ นโยบายการหาปัจจัยการผลิตและสิ่งอำนวยความสะดวก, นโยบายการยกระดับมาตรฐานคุณภาพและการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นชุมชน, นโยบายการสร้างการเข้าถึงช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน และนโยบายส่งเสริมการตลาดผลผลิตเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและบริการ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้พิจารณาโครงการที่เหลือเสนอ ครม.เห็นชอบต่อไป

ปลดล็อกกัญชาเสรีครอบครองได้แล้ว

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 4 สิงหาคม ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสนอ ซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายฉบับเดิมที่ใช้เมื่อปี 2562 ฉบับใหม่ สาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้ป่วยที่ได้รับการรับรองจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์หรือหมอชาวบ้าน ผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตด้านเกษตรกรรมและเกษตรกรที่ดำเนินการผลิตภายใต้ความร่วมมือกับผู้รับอนุญาตผลิตซึ่งยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร และบุคคลอื่น สามารถได้รับใบอนุญาตให้ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 หรือกัญชาได้ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชาชนที่ต้องการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค และปัญหาการพัฒนาองค์ความรู้และต่อยอดกัญชาทางการแพทย์ จากกฎหมายเดิมกำหนดให้เฉพาะหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ขออนุญาตที่ต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐเท่านั้นสามารถขออนุญาตดังกล่าวได้

ทั้งนี้ หลังจาก ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้แล้ว จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป