อดีต สมช.ชี้ นายกฯอาจตกเก้าอี้แบบคาดไม่ถึง หากชุมนุมขับไล่ไฟลามทุ่ง ฝ่ายการเมืองต้องฟังเสียง ปชช.

11ส.ค.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่าสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของทุกภาคส่วน ณ เวลานี้ กลับมาซ้ำรอยประวัติศาสตร์ คือการแก้ไขจะเริ่มต้นจากการริเริ่มกดดันของภาคประชาชน จนฝ่ายการเมืองต้องคล้อยดำเนินการตามประสงค์ของประชาชนไม่มีเป็นอื่น การชุมนุมเรียกร้องได้เดินมาถึงจุดไฟติดแล้ว และกำลังจะลุกลามเป็นไฟลามทุ่ง หนทางดับไฟคือฝ่ายการเมืองต้องตระหนักและยึดตรรกะที่ว่า อธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ฉันทานุมัติของปวงชนคือความชอบธรรมที่ต้องสนองตอบ นั่นคือยึดรูปการณ์ความชอบธรรมเป็นลำดับแรก แล้วปรับใช้กฎหมายซึ่งเป็นเครื่องมือตามมารองรับให้สมบูรณ์แบบต่อไป หากยึดตรรกะนี้ซึ่งเป็นครรลองของระบอบประชาธิปไตยเป็นแนวดำเนินการ เราก็จะฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวงไปได้อย่างสันติ

ต่อกรณีที่ขณะนี้ประชาชนกำลังเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยแสดงจุดยืนไม่เอารัฐประหาร ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ ฝ่ายการเมืองพึงสนองตอบในรูปของสัญญาประชาคม แก้เนื้อหาสาระชัดเจนตรงความต้องการ ค้ำประกันโดยการทำประชามติ เป็นฉันทานุมัติของประชาชน สรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่ประชาชนเชื่อถือว่าเป็นคนมีสัจจะ เข้ามาเป็นหัวหอกการขับเคลื่อน หัวใจสำคัญที่สุดของการดำเนินการในประเด็นที่กล่าวมา คือความรวดเร็วทันใจประชาชน อุปสรรคทั้งหลายที่มาขัดขวาง เราก็ใช้ตรรกะที่กล่าวมาแล้ว เข้ามาคลี่คลาย มันก็จะผ่านพ้นไปได้ตรงตามฉันทานุมัติของประชาชน

สำหรับการที่ต้องปรับใช้และเขียนกฏหมายมารองรับความชอบธรรมนั้น ย่อมไม่เกินขีดความสามารถของสภาผู้แทนราษฎร และครูบาอาจารย์ที่สอนวิชานิติศาสตร์หรอก ต่อข้อสงสัยว่านายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจจะพ้นเก้าอี้ไปได้อย่างไร คำตอบคือการชุมนุมขับไล่ไฟลามทุ่ง จะสร้างสภาวะแวดล้อมเป็นวิกฤติการณ์ใหญ่ จนผู้แทนราษฏรทุกฝ่ายมีดวงตาเห็นธรรมตรงกันว่า นายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจคือผู้ก่อวิกฤตซ้อนวิกฤติไม่รู้จบ ฉะนั้นเขาจะจัดการให้ตกเก้าอี้กันไปเองแบบคาดไม่ถึง