เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนและสอบสวนอนุกรรมาธิการงบประมาณทั้ง 8 ชุด ที่อาจเกี่ยวข้องกับการไถเงินอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและอธิบดีกรมต่าง ๆ ที่ไปชี้แจงการใช้งบประมาณแผ่นดินในแต่ละปี จนเกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากอนุ กมธ.ไม่ยอมปล่อยผ่านงบประมาณให้ ทำให้นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระบุว่าในประชุมว่า มีอนุกรรมาธิการฯบางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาทแลกกับการผ่านงบประมาณให้

“ ไม่ได้มีเพียงแค่กรมน้ำบาดาลหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่ถูกอนุกรรมาธิการฯเรียกเงินใต้โต๊ะ แต่กลับมีอธิบดีบางกรมถูกเรียกเงินถึง 10 ล้านบาท แต่ไม่มีใครกล้าพูดกลางที่ประชุมเหมือนที่นายศักดาทำ โดยจะมีอนุกรรมการฯรายหนึ่ง รวมเสียงอนุกมธ.ฯไว้ ไล่บี้งบของหน่วยงานราชการที่ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านง่าย ๆ แลกกับการจ่ายเงินใต้โต๊ะ โดยร่วมกันทำเป็นขบวนการ กรณีดังกล่าวหากเป็นเรื่องจริง ถือว่าเป็นมะเร็งร้ายในระบอบประชาธิปไตยของชาติ ผู้ที่กระทำการดังกล่าวหากเป็น ส.ส. อาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา114 ,184 ,185 ประกอบ พรป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 และขัดต่อ,ประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส.คนดังกล่าว สิ้นสุดลงได้ ตามมาตรา 101(7) และตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 144 ยังห้ามกรรมาธิการไม่ให้มีส่วนไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย เมื่อ ป.ป.ช.ได้รับแจ้งต้องดําเนินการสอบสวนเป็นทางลับ หากเห็นว่ามีมูล ต้องรีบเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อดําเนินการลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป แต่หากอนุ กรธ.งบประมาณดังกล่าวไม่ได้เป็น ส.ส. ก็สามารถใช้ พรป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561มาดำเนินการเอาผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ได้เช่นกัน