รมว.ท็อป นัดคุย อธิบดีน้ำบาดาล ถูกอนุฯกมธ.งบโทรไถ 5 ล้านวันนี้

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่า นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลถูกเรียกรับเงิน 5 ล้าน เพื่อแลกกับการอนุมัติงบประมาณ ว่า ขณะนี้ตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงยังไม่สามารถติดต่อกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ แต่ตั้งแต่เริ่มพิจารณางบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) มาจนถึงอนุ กมธ. ต้องขอบคุณสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติทุกคน ไม่ว่าจะด้วยวาระใด กระทรวงทรัพย์ได้รับความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจอย่างดี สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นตนไม่ได้อยู่ในสถานที่ ได้ยินข่าวและข้อมูลที่ไม่ตรงกันอยู่บ้าง จึงไม่อยากให้ความเห็นในช่วงที่ข้อมูลยังไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตาม การเข้าไปชี้แจงงบประมาณหรือพูดคุยซักถาม ที่บางครั้งต้องมีการปรับลดงบประมาณนั้น อาจจะต้องมีการกระทบกระทั่งระหว่าง กมธ.กับข้าราชการ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ละปีจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 10 สิงหาคม คงจะมีการพูดคุยกันในประเด็นดังกล่าวกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เชื่อว่าท้ายที่สุดจะสามารถพูดคุยกันและลุล่วงไปด้วยดี

“เป้าหมายของ กมธ.คงดูความคุ้มค่าของงบประมาณ สิ่งไหนที่ทาง กมธ.ดูแล้ว พิจารณาแล้ว ก็อาจจะขอปรับลดบ้าง ทางฝ่ายราชการก็อาจจะมีความเห็นต่างกันไป พูดกันไปพูดกันมา หนึ่งบวกหนึ่งอาจจะไม่ใช่สองแต่เชื่อว่าทุกคนมีความตั้งใจดี เพื่อที่จะให้งบประมาณออกมาเป็นผลงานเพื่อประชาชน” นายวราวุธกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเป็นเรื่องปกติหรือผิดปกติ นายวราวุธกล่าวว่า การที่มีข่าวเช่นนี้ออกมา บางครั้งก็จะได้ยิน เพราะอยู่ในวงการการเมืองมาตั้งแต่เด็ก ท้ายที่สุดจะไม่มีอะไร

“ขู่กันบ้าง เถียงกันบ้าง ตามประสาการพูดคุยในที่ประชุม แต่สุดท้ายจะไม่มีอะไร จบและแยกย้ายกันไปทำงานด้วยดี ทั้งนี้ ไม่ขอออกความเห็นถึง กมธ. เพราะไม่อยากใช้คำว่าถ้า เพราะถ้าใช้คำว่าถ้าจะไปขยายความต่อได้ ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ บางครั้งเรื่องที่เขาบอกว่า เขาเล่าว่า พอไปตรวจสอบกันจริงๆ มันโอละพ่อ จึงไม่อยากให้ความเห็นในขณะที่ยังไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานที่ครบถ้วน”นายวราวุธ กล่าว

เมื่อถามว่า การขู่ในลักษณะนี้อาจจะเป็นการยกเมฆขึ้นมาหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า อาจจะไม่ใช่การยกเมฆ ถึงได้บอกว่าเรายังไม่รู้ว่ามีการพูดคุยกันอย่างไร เพราะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ต้องรอฟังความให้ครบทุกฝ่ายก่อน จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด