‘ชินวรณ์’ ยัน ปชป.เตรียมหาแนวร่วมฟาก รบ. ลงชื่อยื่นญัตติแก้ รธน. จ่อประชุมร่วม 3 ฝ่ายหาแนวทางร่วมกัน

‘ชินวรณ์’ ยัน ปชป.เตรียมหาแนวร่วมฟาก รบ. ลงชื่อยื่นญัตติแก้ รธน. เผยเตรียมประชุมร่วม 3 ฝ่าย ค้าน-รบ.-ส.ว.หาแนวทางร่วมกัน

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรค ปชป.สรุปชัดเจนตั้งแต่ต้นแล้วว่าพรรคเห็นด้วยในการแก้มาตรา 256 เพื่อต้องการเปิดประตูในการไปแก้ไขในประเด็นต่างๆ ให้ประชาธิปไตยยิ่งขึ้น สำหรับการยื่นญัตติพรรคก็จะมีการนัดประชุม ส.ส.ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ เพื่อที่จะได้รวบรวมประเด็นและขับเคลื่อนไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การจะแก้มาตรา 256 ก็ต้องมี 1.แสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้เห็นพ้องต้องกัน และถ้ามีประเด็นใดที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน หรือทำให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น 2.สามารถแก้ไปพร้อมกับการแก้ไขมาตรา 256 ได้ และ 3.หากมีแนวความคิดที่จะให้บุคคลภายนอกมาร่วมเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ก็ต้องมีคำถามตามมาว่าจะมีกระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มี ส.ส.ร.อย่างไร มีองค์ประกอบอย่างไร ซึ่งจะต้องเป็นกระบวนการที่มีความชัดเจน อย่างน้อยที่สุดยืนยันได้ว่าพรรค ปชป.พร้อมที่จะเสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 แน่นอน

เมื่อถามว่า จะมีการขอเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลในการร่วมลงมติอย่างไร นายชินวรณ์กล่าวว่า ต้องแสวงหาความร่วมมือจากพรรคการเมืองอื่นในการเข้าชื่อเสนอญัตติ เพื่อให้เกิดความเป็นจริง ซึ่งต้องใช้ 100 เสียง ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลตนคิดว่าเราควรที่จะได้มีการหารือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะวิป 3 ฝ่าย คือฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของวิปรัฐบาลได้วิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เนื่องจากมีข้อเรียกร้องของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ประธาน กมธ.ก็ประกาศว่าจะเร่งรัดให้การศึกษาเร็วขึ้นเพื่อที่จะให้เสร็จทันสมัยประชุมนี้ โดยจะเสร็จในวันที่ 27 สิงหาคม และสรุปรายงานในวันที่ 8 กันยายน โดยเป็นไปตามเวลา ไม่ได้ยืดเยื้ออะไร เมื่อองค์ประกอบพร้อม วิปรัฐบาลก็ต้องมีการหารือเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง

นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีเส้นตายอย่างไรนั้น ตนคิดว่าไม่ใช่เส้นตาย แต่เป็นเรื่องเส้นเป็น เมื่อมีการเสนอ กมธ.วิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว เราได้ให้เวลามาระยะหนึ่ง และพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศชัดเจนที่จะเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และประเด็นอื่นๆ ที่ทำให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น เพียงแต่ต้องทำตามมาตรา 256 ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญก่อน และการที่จะทำให้ ส.ว.มาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญเราก็ต้องมีความชัดเจนว่าเป้าหมายในการแก้ไขคืออะไร นอกจากเปิดทางในการแก้มาตรา 256 แล้ว ก็ต้องมีความชัดเจนในประเด็นอื่นด้วย ซึ่งหากเรามีความชัดเจนก็จะสามารถแสวงหาความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ได้ ดังนั้น ตนเห็นว่ารัฐบาลต้องมีความจริงใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ครั้งนี้จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจริงๆ แต่ส่วนอื่นๆ ตนไม่กล้ารับประกันว่าจะแก้ไขจริงๆ หรือไม่ อย่างไร ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องตอบโจทย์นี้