เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายทีโดรส อัดอานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกออกมากล่าวเตือนว่าอาจไม่มียาวิเศษในการรับมือไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ แม้จะมีการเร่งพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิผลในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กันอยู่ในขณะนี้ก็ตาม พร้อมร้องขอให้รัฐบาลต่างๆ และประชาชนมุ่งมั่นปฏิบัติตามแนวปฏิบัติพื้นฐานที่มีอยู่กันต่อไปทั้งการตรวจหาเชื้อ การติดตามรอยผู้ติดต่อสัมผัสโรค การรักษาระยะห่างทางกายภาพ และการสวมหน้ากากป้องกัน เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

“เราทุกคนต่างหวังว่าจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิผล สามารถป้องกันผู้คนจากการติดเชื้อโรคดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มียาวิเศษและอาจไม่มีเลยก็ได้” ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าว ขณะที่ไวรัสโควิด-19 ได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วกว่า 693,587 ราย และมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวมกันมากกว่า 18.27 ล้านคน

ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อร่วมในการสอบสวนหาต้นตอที่มาของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มพบที่เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย์ของจีนเป็นที่แรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมาว่า คณะผู้เชี่ยวชาญที่ประกอบด้วยนักระบาดวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสัตว์ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งถูกส่งไปยังกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อวางแนวทางในการสอบสวนหาที่มาว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้แพร่สู่คนได้อย่างไรนั้น ได้สรุปกรอบการทำงานในการสอบสวนในเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกและจีนได้ร่างเอกสารอ้างอิงสำหรับการศึกษาและโครงการในการทำงานสำหรับทีมผู้เชี่ยวชาญ และว่า การศึกษาในทางระบาดวิทยาจะเริ่มขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นเพื่อสืบหาต้นตอการแพร่ระบาดของโรคจากผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรกๆ ซึ่งหลักฐานและสมมติฐานต่างๆที่ได้จากการทำงานนี้จะเป็นแนวทางในการศึกษาเพิ่มเติมในระยะยาวต่อไป

ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าไวรัสโควิด-19 น่าจะเป็นการแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนที่อาจมาจากตลาดค้าเนื้อสัตว์แห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ที่มีการจำหน่ายสัตว์ป่าที่เชื่อว่าเป็นที่มาของโรครวมอยู่ด้วย