เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในการเสวนาเรื่อง ไทยพร้อมแล้วกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ ในงานสัมมนา ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า จัดโดย หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้กำลังเตรียมการเพื่อเข้าสู่การแข่งขันที่มีผู้เข้าชมได้ มั่นใจว่าจะทำ 2 สิ่งนี้ได้ตลอดเวลา ได้แก่ 1.สามารถเฝ้าระวังการติดเชื้อในประเทศได้ 2.หากมีการติดเชื้อ ประเทศไทยจะสามารถควบคุมและจำกัดวงของการติดเชื้อให้ได้

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้ค่อนข้างดี แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดควบคู่ไปกับต้องเดินหน้าใช้ชีวิตวิถีใหม่ ไม่สามารถให้ทุกคนหยุดอยู่กับที่ตลอดเวลาได้ ประเทศไทยมีการทำงานอย่างมีลำดับขั้นตอน และวันนี้จะเดินหน้าต่อ ด้วย Care Clean Clear ต้องร่วมมือกันในมาตรการส่วนบุคคล ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง ในเฟสที่ 1-3 ประชาชนให้ความร่วมมือประมาณร้อยละ 90 เมื่อเฟส 4 มีการผ่อนคลายตัว ทำให้ตกลงมาอยู่ที่ร้อยละ 80 แต่ขณะนี้กลับไปที่ร้อยละ 96 เนื่องจากทุกคนมีความเข้าใจว่า มีความร่วมมือและร่วมกันทำอะไรมาก่อน ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือดีมาก ทุกมาตรการที่กรมอนามัยประกาศมีการลงพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ ขณะนี้ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มธนาคารขนาดกลางและขนาดย่อมดูแลผู้ประกอบการรายย่อย

“ประเทศไทยมีความพร้อมและเราได้เตรียมการมาโดยตลอด เรากำลังก้าวสู่ความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยว หากเราทำเส้นทางการท่องเที่ยวไปพร้อมกับมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคล จะช่วยให้คนไทยทุกคนกลับมาอยู่ในฐานชีวิตวิถีใหม่ที่มีความสุขอีกครั้ง” พญ.พรรณพิมลกล่าว

ทั้งนี้ ระหว่างการเสวนาผู้ดำเนินรายการตั้งคำถามถึงการจัดพื้นที่ จ.ภูเก็ต ให้เป็นโมเดล ภูเก็ต เด็ดทั้งเมืองในการนำร่องมาตรการนำชาวต่างชาติเข้าในพื้นที่ มีความเป็นไปได้อย่างไร พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีการคุยกันว่าจ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่จัดการง่ายมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ปิด และมีความมั่นใจ โดยได้เตรียมการในพื้นที่แล้ว ยืนยันว่าเป็นส่วนเสริมของมาตรการ Health and Tourism (เฮลท์ แอนด์ ทัวริสซึ่ม)

พญ.พรรณพิมลกล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้คือความร่วมมือกัน โดยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้หารือกับกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ร่วมมือสนับสนุนในการจัดทำคู่มือและแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐาน ให้สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการกลุ่มกิจกรรม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านสาธารณสุข

” ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องโควิด-19 เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของสุขภาพพื้นฐานของประชาชน ทุกคนเป็นคนส่งข้อมูลไปมาสู่พวกเราว่า ประเทศไทยที่แข็งแรง มาจากความพร้อมของบุคคลในการดูแลตัวเอง และดูแลสถานที่ในส่วนรับผิดชอบ ความร่วมมือนี้คงจะเดินหน้าต่อไป และอยากจะมั่นใจว่าเราจะรักษาอันดับ 1 ของประเทศที่ฟื้นจากการจัดการกับโควิด-19 ได้ เราจะได้เดินหน้าไปด้วยกันในด้านการท่องเที่ยวเราใช้ชีวิตวิถีใหม่ เตรียมตัวก่อนทุกครั้ง วางแผนการท่องเที่ยวด้วย 1 หน้ากาก และ 2 มือที่สะอาด ใช้ชีวิตได้ไปเที่ยวได้อย่างสนุกและปลอดภัยแน่นอน” พญ.พรรณพิมลกล่าว