วันที่ 2 สิงหาคม 2563 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเตรียมหาตัวผู้สมัคร ชิงเก้าอี้ผู้ว่ากทม.ของพรรคเพื่อไทย(พท.) ซึ่งได้มีเสียงเรียกร้องของเพื่อนพ้องน้องพี่ มวลสมาชิกพรรคเพื่อไทย ระลึกถึงมิตรภาพและขอเชิญชวนท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตหนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มาเป็นผู้สมัครชิงผู้ว่ากทม.ในนามของพรรคพท. แต่ที่ผ่านมาท่านชัชชาติได้ประกาศชัดเจนต่อสาธารณชนไปแล้ว ว่าจะลงสมัครชิงผู้ว่าฯในนามอิสระ มันจึงเลยจุดที่จะวกกลับมาลงสมัครในนามพรรคพท.เสียแล้ว เพราะถ้าท่านชัชชาติพลิกตัวกลับมาลงสมัครในนามพรรค ก็จะกลายเป็นคนไม่รักษาคำพูดในสายตาของชาวกทม.

เมื่อไปหาเสียงให้คำมั่นกับชาวกทม. จะถูกกล่าวขวัญว่าเป็นคนที่คำพูดเชื่อถือไม่ได้ แล้วพวกเขาจะเชื่อมั่นได้อย่างไร ว่าจะทำจริงตามคำสัญญา พาลจะพากันจบเห่ไปทั้งท่านชัชชาติและพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ยังไม่ลงสมัครซะอีก มันเคยมีบทเรียนมาแล้วที่ผู้นำบางคน เคยเอ่ยวาจาว่า”ยอมเสียสัตย์เพื่อชาติ” สุดท้ายพังไม่เป็นท่า อย่างไรก็ดีไมตรีจิตของมวลสมาชิกพรรคพท.กับท่านชัชชาติ ก็จะยังคงดำรงอยู่เสมอ แม้จะเสียดายในตัวท่านชัชชาติ แต่พรรคก็เคารพในสิทธิเสรีภาพของท่าน และให้เกียรติซึ่งกันเสมอ

ท้ายที่สุดเราคงต้องทำใจไปด้วยกันทั้งคู่ เพราะสภาพการณ์มันล็อควิถีไปแล้ว พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก ที่จะหาตัวผู้สมัครลงชิงผู้ว่ากทม.หรอก เมื่อลงสนามการแข่งขันแล้ว ผลออกมาประการใด พรรคยอมรับและเคารพในการตัดสินใจของชาวกทม.เสมอ การเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งใหม่ ถ้าชาวกทม.ให้ความไว้วางใจ เลือกผู้สมัครของพรรคพท.เป็นผู้ว่ากทม. พรรครับรองว่าจะรังสรรค์ปั้นแต่งงานของกทม. ผสานเข้ากับงานของส.ส.สนามใหญ่ ทำให้กทม.มีความราบรื่นในการบริหารงานร่วมกับรัฐบาล ซึ่งจะนำพาไปสู่ความเป็นเมืองหลวงที่มีความเป็นเลิศในทุกมิติ