“ทรัมป์” เสนอเลื่อนเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ อ้างโหวตทางไปรษณีย์โกงได้

วันที่ 30 ก.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา เสนอเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 วันที่ 3 พ.ย. ออกไป จนกว่าคนอเมริกันจะได้ลงคะแนนเสียงอย่างถูกต้อง มั่นคง และปลอดภัย อ้างว่า การลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อาจเกิดการฉ้อโกงและนับผลการเลือกตั้งไม่ถูกต้องแม่นยำ

ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความว่า การลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์จะทำให้ การเลือกตั้งฉ้อโกงและไม่ถูกต้องแม่นยำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เป็นความอับอายครั้งยิ่งใหญ่ต่อสหรัฐ และง่ายต่อการแทรกแซงจากต่างชาติด้วย

“พรรคเดโมแครตพูดถึงต่างชาติที่จะแทรกแซงการลงคะแนนเสียง ทั้งที่ตัวเองรู้ว่าการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์เป็นวิธีการง่ายๆ ในหลายประเทศ” ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตและว่า “การลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ได้รับการพิสูจน์ในหลายพื้นที่ที่มีการทดลอง พบเป็นหายนะร้ายแรง”

ดำริของผู้นำสหรัฐเรียกเสียงวิจารณ์การทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งและบรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันที่ประสานเสียงไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนเลือกตั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม นายคริส สจ๊วต ส.ส.รีพับลิกัน รัฐยูทาห์ ไม่เห็นด้วยที่เลื่อนการเลือกตั้งเช่นกัน แต่เห็นด้วยที่ผู้นำสหรัฐบอกว่า การลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ยากต่อการตรวจสอบ พร้อมยกตัวอย่างรัฐยูทาห์ที่เลือกตั้งทางไปรษณีย์เพราะเป็นรัฐเล็กๆ และประชากรน้อย แต่หากเป็นทั่วประเทศจะยากขึ้น

ด้าน นายไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แถลงข่าวว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐจะเป็นผู้ตัดสินในแง่ของกฎหมาย และว่ารัฐบาลต้องการการเลือกตั้งที่ทุกคนเชื่อมั่น

ที่ผ่านมาหลายรัฐของอเมริกาจัดการเลือกตั้งทางไปรษณีย์เนื่องด้วยความวิตกกังวลต่อสุขภาพประชาชนท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนกรานมาตลอด แม้ว่าหลักฐานที่มาสนับสนุนคำพูดของผู้นำสหรัฐจะมีน้อยนิดก็ตาม

ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีอำนาจเลื่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งปกติกำหนดเป็นวันอังคารสัปดาห์แรกของเดือนพ.ย. หากเปลี่ยนแปลงต้องได้รับอนุมัติจากคองเกรส ทั้ง สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเดโมแครตครองเสียงข้างมาก และ วุฒิสภา ซึ่งรีพับลิกันครองเสียงข้างมาก แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีอำนาจแทรกแซงคองเกรสได้ จากนั้น คองเกรสต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก เพื่อชะลอการเลือกตั้งออกไปเป็นปีหน้า และต้องเลื่อนวันทำพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. 2564 ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระบุว่า ต่อให้คองเกรสจะอนุมัติเลื่อนการเลือกตั้งและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังต้องหมดวาระการดำรงตำแหน่งวันที่ 20 ม.ค. 2564 เหมือนเดิม

ทั้งนี้ ทรัมป์ ผู้ใช้ผลงานเศรษฐกิจหาเสียงเลือกตั้ง ได้รับคะแนนนิยมตามผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ตามหลัง โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต

ขณะที่สหรัฐรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำสุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ อันเป็นผลกระทบจากโควิด-19 จนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) สองสหรัฐในไตรมาสที่สองของปีนี้ตกต่ำลงอย่างหนัก