ปธ.คณะอัยการ ป้ององค์กร ส่ง 3 ข้อเสนอ คดี ‘บอส อยู่วิทยา” ให้ อสส.ตรวจสอบคดีอีกครั้ง

วันที่ 29 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ ได้ส่งบันทึกข้อความ ถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธอยู่วิทยามีความว่า

ด้วยปรากฏว่ากรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1ข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ชนรถผู้อื่นเสียหายและมีผู้ถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นคดีสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งในและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องหลายปี และขณะนี้สื่อมวลชนต่าง ๆ สื่อออนไลน์และการแสดงความคิดเห็นทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ต่างเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่าง ๆ ในทางลบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการในคดีดังกล่าว

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 248 กำหนดหลักการสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอัยการและพนักงานอัยการไว้ว่า “พนักงานอัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี และการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยรวดเร็วเที่ยงธรรม และปราศจากอคติทั้งปวง และไม่ให้ถือว่าเป็นคำสั่งทางปกครอง” กระแสการวิพากย์วิจารย์ดังกล่าวมาข้างต้น ก่อให้เกิดความคลางแคลงใจและความไม่เชื่อมั่นในการใช้อำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ และอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและมีผลเสียหายอย่างมากต่อองค์กรอัยการได้ จึงมีความจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้สาธารณชนทราบโดยด่วนที่สุด

ผมในฐานะประธาน ก.อ. จึงมีความห่วงใยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อองค์กรอัยการเป็นอย่างยิ่ง และใคร่ขอให้คำแนะนำแนวทางแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อประกอบการพิจารณา ดังนี้

1.อัยการสูงสุด (อสส.) ควรตรวจสอบการดำเนินคดีของสำนวนดังกล่าว ในทุกขั้นตอนทั้งอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการและองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อสามารถยืนยันความถูกต้องตามกฎหมายและหลักนิติธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการให้แล้วเสร็จได้โดยเร็วที่สุด

2.ระหว่างดำเนินการตามข้อ 1.ควรมีกลไกที่เหมาะสม ให้การอธิบายทำความเข้าใจให้สาธารณชนทราบทุกระยะ เพื่อป้องกันการสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความจริง

3.เมื่อได้ผลการตรวจสอบตามข้อ 1.ต้องจัดให้มีการแถลงข่าวหรืออธิบายที่กระชับแก้ได้ตรงประเด็นต่าง ๆ ที่สาธารณชนตั้งข้อสงสัยการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการได้อย่างถูกต้อง ตามหลักกฎหมายและหลักการอำนวยความยุติธรรม ให้เป็นที่ประจักษ์แจ้งชัดต่อสาธารณชนทันที ในโอกาสแรกที่สามารถกระทำได้

รวมทั้ง การแก้ไขปัญหาทันทีภายใต้กรอบของกฎหมาย ในกรณีหากพบปัญหาหรือข้อคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติหน้าที่ในขั้นตอนใดเกี่ยวกับการสั่งคดีดังกล่าวด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา