ศรีสุวรรณจี้อัยการสูงสุด ตอบ 9 ข้อพิรุธ สั่งไม่ฟ้องคดี ‘บอส อยู่วิทยา’

ศรีสุวรรณจี้อัยการ-ตำรวจ ตอบ 9 ข้อพิรุธ สั่งไม่ฟ้องคดี ‘บอส อยู่วิทยา’

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงยืนยันว่าพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยาหรือบอส ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และดำเนินการเพิกถอนหมายจับต่อนั้น กรณีที่เกิดขึ้นมีข้อพิรุธและข้อสงสัยที่สังคมไทยต้องการคำตอบจากอัยการและตำรวจถึง 9 ประเด็น

1.ตามระเบียบสํานักงานอัยการสูงสุด การสั่งคดีอาญาที่จะมีผลกระทบต่อผลประโยชน์อันสําคัญของประเทศกำหนดให้เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดเท่านั้น เหตุใดรองอัยการสูงสุดจึงสั่งแทนได้

2.การระบุมีพยานใหม่ 2 ราย ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่เพิ่งมาโผล่เป็นพลเมืองดีเมื่อเวลาผ่านไป 7 ปี พยานในลักษณะนี้ในทางคดีไม่มีความน่าเชื่อถือที่จะรับฟังได้ มีพิรุธ แต่ทำไมอัยการจึงให้น้ำหนักกับพยาน 2 รายดังกล่าว

3.การที่ผู้ตรวจสอบความเร็วให้การในครั้งแรกว่าบอสขับรถด้วยความเร็ว 177 กม./ชม. เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรม ความเร็วของรถลดลงเหลือเพียง 76 กม./ชม. อัยการก็เชื่อตามนั้นได้อย่างไร เมื่อประจักษ์พยานที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สำคัญคือจุดที่รถจักรยานยนต์ผู้ตายไปตกอยู่ห่างจากจุดที่ชนถึง 163.6 เมตร หากความเร็วรถยนต์ 76 กม./ชม. จะลากยาวขนาดนั้นได้อย่างไร

4.ข้อมูลการพบสารแปลกปลอมในร่างกายของนายบอสตามที่ สน.ทองหล่อ ประสานมาให้ รพ.รามาธิบดีตรวจสอบพบ 1.สาร Alprazolam (อัลพาโซแลม) 2.สาร Benzoylecgonine (เบนซอยเลกโกไนน์) 3.สาร Cocaethylene (โคเคเอธทีลิน) และ 4.สาร Caffeine (คาเฟอีน) ทำไมจึงไม่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ที่ส่งไปยังอัยการ หากเป็นเช่นนี้จะสามารถใช้เป็นข้อมูลใหม่ในการรื้อฟื้นคดีได้หรือไม่

5.การร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ สนช. ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่ในทางคดีตามประมวลกฎหมายอาญา อัยการให้น้ำหนักความน่าเชื่อถือได้อย่างไร ทั้งที่มีข้อพิรุธ

6.การปล่อยให้บอสหลบหนีไปต่างประเทศหลังจากประกันตัว โดยไม่มีการติดตามและระมัดระวังอย่างเพียงพอ ไม่สามารถนำตัวมามอบให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลได้ นำไปสู่การขอเลื่อนคดีถึง 7 ครั้ง การกระทำเช่นนี้ในทางคดีเรียกว่าเป็นการประวิงคดี อัยการไม่ทราบหรืออย่างไร

7.การตั้งข้อหาให้นายดาบตำรวจที่เสียชีวิตว่าเป็นจำเลยร่วมในคดี ทั้งที่เป็นผู้เสียหายในคดีซึ่งขัดต่อข้อเท็จจริงที่สังคมรับรู้ร่วมกัน เป็นเทคนิคทางคดีที่เด็กอมมือก็ทราบ

8.กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติว่ามีมูลความผิดตำรวจ 7 นาย ฐานเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในข้อกล่าวหาหลายข้อล้วนมีน้ำหนักในทางคดีมาก ทำไมอัยการจึงไม่ให้น้ำหนักต่อรายงานของ ป.ป.ช.ดังกล่าว

9.คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน เป็นคดีใหญ่ การสั่งคดีนั้นต้องคำนึงถึงระเบียบสํานักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของอัยการ 2547 โดยเคร่งครัดให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน สำหรับคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีของอัยการ 7 คนจะประชุมและคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของฝ่ายตำรวจจะต้องหาข้อสรุปกันภายใน 15 วัน หวังว่าท่านทั้งหลายจะไม่ทำให้คดีนี้กลายเป็นปัญหาที่นำไปสู่การทำลายเสาหลักแห่งความยุติธรรม ถ้าเสาหลักล้ม หน่วยงานของท่านก็จะมีปัญหาตามไปด้วย