ไทยเที่ยวไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว! ใจชื้นได้ มิ.ย. เป็นบวกหลังเดือนก่อนติดลบเกือบ 100%

รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เดือนม.ค.-มิ.ย. 2563 จากผลกระทบรุนแรงจากโควิด-19 ประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโรค เช่นเดียวกันกับประเทศไทย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย 3 เดือน ติดต่อกันตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 เป็นต้น จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทย 6.69 ล้านคน ลดลง 13.07 ล้านคน หรือคิดเป็น 66.15% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในเชิงของรายได้ยังคงอยู่ที่ 3.32 แสนล้านบาท ลดลง 6.20 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 65.15% ขอช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศ เดือนม.ค.-มิ.ย. 2563 สำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ ที่เรียกว่า ไทยเที่ยวไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 คาดว่ามีจำนวนผู้เดินทางทั้งสิ้น 45.88 ล้านคน ลดลง 67.41 ล้านคน หรือคิดเป็น 59.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว 2.07 แสนล้านบาท ลดลง 3.28 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 61.25% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

หากมองเฉพาะเดือนมิ.ย. 2563 จะพบว่า มีสัญญาณของการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนจากเดือนพ.ค. คือ มีจำนวนชาวไทยเดินทาง 4.83 ล้านคน ลดลง 72.02% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และปรับตัวดีขึ้นจากเดิมที่ลดลง 96.98% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นผลจากการมาตรการผ่อนคลายที่ออกมาเป็นระยะๆ มาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น มาตรฐานด้านสุขอนามัย หรือ SHA การเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศของสายการบินต่างๆ และที่สำคัญการมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงปลายเดือน

ไทยเที่ยวไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และมีสัญญานฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากการสำรวจอัตราการเข้าพักของสถานพักแรมทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมา และแนวโน้มในเดือนก.ค. 2563 พบว่า มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน จากเดิมที่อยู่ในระดับ 2% ในเดือนเม.ย. ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 15.63% ในเดือนมิ.ย. และ 25.30% ในเดือนก.ค.

โดยมีปัจจัยบวก คือ 1. อุปสงค์หรือความต้องการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างสูง 2. มาตรการผ่อนคลายที่เอื้อต่อการเดินทางมากขึ้น 3. การเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินต่างๆ 4. การมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนสิ่งที่ต้องคำนึงถึงการท่องเที่ยวในช่วงปัจจุบัน แม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่ยังต่างจากช่วงปกติค่อนข้างมากโดยการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจะหนาแน่นในเมืองท่องเที่ยวหลักที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เช่น พัทยา ชะอำ หัวหิน กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ที่การท่องเที่ยวจะคึกคักในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ค่อนข้างเงียบเหงาในช่วงวันธรรมดา ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวระยะไกล เช่น ทางภาคเหนือ และภาคใต้ หากเป็นช่วงหยุดยาวจะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นกว่าปกติ

ดังนั้น แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวชุมชมที่มีความโดดเด่นด้านวิถีชีวิตและวัฒนธรรมจำนวนมาก ที่ยังคงรอให้พี่น้องชาวไทยไปเยือน ในวันที่ 15 ก.ค. นี้เราเที่ยวด้วยกันจะเปิดให้ลงทะเบียนเป็นวันแรกโดยจะมีส่วนลดที่พัก และ Voucher ต่างๆ ที่รัฐบาลได้เตรียมเป็นของขวัญให้ชาวไทย อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวนับจากนี้คงเป็นการท่องเที่ยววิถีปกติใหม่ ที่ต้องให้ความสำคัญด้านสุขอนามัย จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวไทยทุกท่านปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด