กักตัวคนขับรถตู้ส่งทหารอียิปต์ 14 วัน เพื่อนบ้านไม่ห่วงโควิดคนขับรถตู้ไม่ค่อยสุงสิงกะใครอยู่แล้ว

จากกรณีที่ “ทหารอียิปต์” จำนวน 31 นาย ลงเครื่องบินที่สนามบินอู่ตะเภา ก่อนเดินทางเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ซึ่งต่อมากลุ่มทหารอียิปต์ ได้เดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ของ จ.ระยอง รวมทั้ง ห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง จ.ระยอง โดยระหว่างนั้นได้มีการตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 คน โดยมีคนขับรถตู้สาธารณะ จำนวน 2 คน เป็นผู้ที่ขับรถรับส่งคณะนายทหารดังกล่าว และหนึ่งในสองคนที่ขับรถตู้นั้น ได้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความกังวลเกี่ยวกับการระบาดเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่

ล่าสุด (15 ก.ค.) เวลา นายไพรัตน์ ไตรศุภโชค นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ออกมาชี้แจ้งเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนว่า กรณีดังกล่าวนั้น เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ไปที่บ้านของคนขับรถตู้ โดยได้สอบสวนโรคในเบื้องต้น ไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด พร้อมกับทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคภายในบ้านพัก พร้อมกับให้ทำการกักตัวเองเป็น 14 วัน ภายในบ้านพัก เพื่อสังเกตอาการ ซึ่งเทศบาลตำบลห้วยใหญ่จะได้ตรวจสอบประเมินอาการตามระยะเพื่อให้แน่ใจว่าคนขับรถตู้รายนี้ปลอดจากเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงประชาชนที่ทราบข่าว อย่าได้เป็นกังวลนัก เนื่องจากคนขับรถตู้แม้ว่าจะมีความเสี่ยงใกล้ชิดกับทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าขับรถตู้ส่งคณะทหารนั้น จากสนามบินอู่ตะเภาไปถึงจังหวัดระยองเป็นเวลาประมาณ 30 นาที และระหว่างนั้น คนขับรถตู้ได้ป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา และเมื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากคนขับรถตู้ก็ไม่พบเชื้อแต่อย่างใด

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบบ้านพัก นายวิทยาพบว่าภายในบ้านมีรถตู้ที่ใช้ขนส่งทหารอียิปต์ และรถกระบะอีก 1 คัน จอดอยู่ในลานจอดหน้าบ้าน ส่วนประตูเหล็กเข้าบ้านล็อกด้วยกุญแจ

สอบถาม น.ส.พนิดา อัศวตระกูล 28 ปี อยู่ข้างบ้านนายวิทยาทราบว่าเพิ่งจะรู้เรื่องว่าคนขับรถตู้ดังกล่าวอยู่ข้างบ้าน ก็ตกใจเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไรมากนัก เพราะตามปกติแล้ว นายวิทยาจะไม่ค่อยออกมาสุงสิงกะใครอยู่แล้ว ขับรถเสร็จก็จะกลับเข้าบ้านเลย

ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ลูกของนายวิทยาไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ว่าทำไมไม่กักตัวไว้ที่บ้าน เดี๋ยวก็ติดกันทั้งโรงเรียน ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายวิทยาซึ่งได้รับการยืนยันว่า เด็กคนนั้นเป็นหลานชายอยู่คนละบ้านกันและไม่ได้ไปมาหาสู่กันระยะหนึ่งแล้ว และยังบอกอีกว่ามีคนโทรศัพท์มาสอบถามมากมาย เกรงว่าจะนำเชื้อโควิด-19 ไปแพร่ระบาดในโรงเรียน ขอยืนยันว่าไม่ใช่ลูกชาย พร้อมฝากขอให้เห็นใจ และแจ้งให้คนอื่นๆ ทราบด้วย

นายวิทยาคนขับรถตู้รับ-ส่งทหารอียิปต์ เปิดเผยต่ออีกว่า ตนนั้นมีลูกชาย 1 คน ตอนนี้อายุ 30 กว่าปีแล้วทำงานอยู่ที่การบินไทย สนามบินสุวรรณภูมิ และช่วงวันเวลาที่ไปรับทหารนั้น ลูกชายก็ไม่ได้เดินทางมาบ้าน จึงไม่มีลูกชายเรียนหนังสือในพื้นที่สัตหีบแต่อย่างใด