เผยแพร่ |
---|
คณะประสาน เสนอเป็นตัวกลางจัดเวทีกลางกรณี จะนะ ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายสนับสนุน ดีเบต แสวงหาทางออก
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ รร.ปาร์ควิว อ.เมืองปัตตานี มีการประชุมของคณะประสานงานสันติสุขระดับพื้นที่ โดยมี พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่4, พล.ต.ธิรา แดหวา, พล.ต.เกรียง ศรีรักษ์์ เป็นผู้จัดประชุม มีคณะประานงาน8กลุ่มงานเข้าร่วมกว่า50 คน หลังจากไม่มีการประชุม มานานถึง3เดือน เพราะสถานการณ์โควิด19 ในที่ประชุมได้กล่าวพูดคุยสรุปสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ว่าแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด แต่คณะทำงาน ตามส่วนต่างๆที่รับผิดชอบ 8 กลุ่ม สายงานในทุกมิติ ยังคง เดินสายทำงานลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในที่ประชุมได้สะท้อนการแก้ปัญหา ทั้งด้านความมั่นคง ปัญหายาเสพติด ปัญหาการจัดการโครงการอุตสาหกรรมจะนะ ปัญหาเด็ก และปัญหาความยากจนและผลกระทบของประชาชนในสถานการณ์โควิด19
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่4 /หน.คณะประสานงานระดับพื้นที่ ประธานการประชุม กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำว่าการพูดคุยต้องใช้หลักของความจริงเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาในพื้นที่ไม่ต้องบิดเบือน เพราะที่ผ่านมานั้นการสูญเสียคือชีวิตของพี่น้องประชาชนจริง ๆ
การบังคับใช้กฎหมายยังคงดำเนินการจากเบาไปหาหนัก อยากให้คนที่เห็นต่างจากรัฐมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน เคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นคน หากยังใช้ความรุนแรงก็ว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย จะต่อสู้เพื่ออะไรเมื่อความต้องการของพี่น้องในพื้นที่คือความสงบสุข ความเจริญของพื้นที่ ทราบข่าวดีจากระดับนโยบายว่าคนที่เห็นต่างจะยุติบทบาทและกลับมาร่วมมือในการสร้างสันติสุขร่วมกัน เรามีทางออกให้ตลอดแต่ขอให้มีคุยกันฝากทุกท่านหากสื่อไปยังกลุ่มคนเหล่านั้นหรือเขามีความเชื่อมั่นก็ให้ประสานมาได้ตลอดเวลา
และยังมีเวทีสภาสันติสุขตำบล คือ เวทีของการพูดคุยคนในพื้นที่จริงๆท่านอยากให้พื้นที่เป็นอย่างไร ก็ต้องคุยและช่วยกันแก้ปัญหาของตำบล อย่าให้คนที่นอกพื้นที่มาจัดการทุกอย่าง ตำบลเราต้องจัดการเอง ในสภาสันติสุขตำบลทุกปัญหาต้องแก้ให้จบ ทุกหน่วยงานต้องหนุนเสริมทั้ง 290 ตำบลให้เต็มพื้นที่ให้เกิดภาพทั่ว จชต. ให้เกิดภาพภาคประชาสังคมที่ใหญ่ที่สุดและเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีประเด็นที่สำคัญคือ ปัญหาในตำบลคืออะไร จะให้รัฐแก้ไขปัญหาอย่างไร ให้รัฐช่วยสนับสนุนส่งเสริมอย่างไร โดยให้สภาสันติสุขตำบลเป็นศูนย์กลางในการดำเนินกิจกรรมของชุมชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุผลสำเร็จต่อไป
ความสันติสุขของพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้คงไม่สามารถคิดขึ้นได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือ จากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกคนที่ร่วมกิจกรรมคือผู้แทนของประชาชนในพื้นที่ ที่จะช่วยกันสร้างความรับรู้ ความเข้าใจในสภาสันติสุขตำบล เกิดการร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการประชุมร่วมหารือ แนวทางการแกไขปัญหาในพื้นที่ จชต.นำพาสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่
ในสำหรับนโยบายที่สำคัญของ ผอ.รมน.ภาค 4และในฐานะหน.คณะประสานงานระดับพื้นที่ ทุกท่านของรับรู้และทราบกันอย่างดี ต้องทำให้จริงจังให้เกิดผลต่อกลุ่มคนที่กล่าวอ้างว่าเป็น BRN ที่ใช้ความรุนแรงต่อสู้เพื่อคนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาเหล่านั้นรู้หรือไม่ว่าความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่แท้จริงคืออะไร บิดเบือนในทุกเรือง ขอให้พวกเราช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนรัฐด้วย ทั้งนี้ยังได้กล่าวอีกว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่สงบได้อย่างไร ถ้าเราทุกคนรวมพลังกัน
ประเด็นเร่งด่วนคือ ปัญหาที่โครงการเมืองต้นแบบจะนะ อยากให้จัดเวทีมารับฟังความคิดเห็นหาทางออกร่วมกันทั้งคนที่คัดค้านและสนับสนุนต้องมาคุยหารือกันใช้เวทีของคณะประสานงานระดับพื้นที่เป็นโซ่ข้อกลางสร้างความเข้าใจให้ทุกๆฝ่าย ถือเป็นทางออกร่วมกันที่ดีทั้งสองฝ่าย แม่ทัพภาคที่ 4 จะมาร่วมด้วย พร้อมทั้งมีความเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัยของพี่น้องในพื้นที่เป็นสำคัญ คนนอกไม่ควรจะเข้าไปมีส่วนร่วมหรือสร้างความแตกแยก/ความไม่ไว้วางใจระหว่างกันให้เกิดขึ้น คนที่เกี่ยวข้องจริงเท่านั้นต้องมาหาออกร่วมกันและเดินไปด้วยกัน
หากเจ้าหน้าที่รัฐสร้างเงื่อนไข ไม่ต้องกังวลดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน ไม่ปล่อยไว้ ถือหลักความจริงเป็นหลักขอให้ทุกคนได้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้ที่เห็นต่างจากรัฐหากสร้างเงื่อนไขหรือใช้ความรุนแรงก็ดำเนินการตามข้อเท็จจริง
ในที่ประชุมคณะทำงานสล.3 นายมันโซร สาและได้เสนอประเด็นกรณีโครงการอุตสาหกรรมจะนะ ให้เป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากเป็นประเด็นร้อนในพื้นที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากการจัดเวทีที่ผ่านมา เป็นการจัดแบบปาหี่ หลอกคนดูทั้งประเทศ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับอีกฝ่าย มีการสะท้อนปัญหาที่ไม่ครอบคลุมทุกด้าน มีการเกณฑ์คนให้มารับฟังเป็นหมื่นคน มีการจ่ายเงินรับซองให้กับผู้มาร่วมและสนับสนุนยกมือให้ โดนเฉพาะ ศอ.บต.เองเป็นที่พึ่งของประชาชนแต่เล่นบทบาทครั้งนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง เป็นการเอาใจนายทุนและผู้ใหญ่ ชัดเจน ไม่ฟังชาวบ้าน
นอกจากนี้ยังมีการสะท้อนถึงปัญหา การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาเรื่องรร.ตาดีกาขอร่วมมือใช้เอกสารการเรียนการสอนจากอักษรภาษามลายูเป็นภาษาไทยอันนี้จะเป็นการทำลายอัตลักษณ์ทางภาษาอีกครั้ง
ต่อเรื่องนี้เลขาคณะทำงานได้ พ.ต.ธิรา แดหวา เลขานุการได้กล่าวว่า ผมได้พูดย้ำทุกครั้งว่าเวทีนี้มีบทบาทของตัวแทนของประชาชนในพื้นที่มนทุกภาคส่วนในที่นี้สามารถสะท้อน เสียงและรับฟังความคิดเห็นของทุกคน และในกรณีโครงการอุตสาหกรรมจะนะ เรามีตัวแทนของทั้ง2 ฝ่าย ในคณะสล.3ยินดีรับการนำข้อเสนอของทีประชุม ให้เป็นตัวกลาง จัดเวทีแสดงความคิดเห็นทั้งนักวิชาการ ฝ่ายชาวบ้าน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งหมดและแกนนำฝ่ายค้านและทางศอ.บต. มาตั้งเวทีดีพูดคุยกัน ให้มีการเสนอความต้องการของทั้ง2ฝ่าย ให้ได้ข้อสรุปเป็นที่ยอมรับกัน ไม่เกิดความขัดแย้งบานปลาย
อีกเรื่องคือ ข้อมูลข่าวสารที่ออกไปว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางรร.ตาดีกาการนำเอกสารการเรียนการสอน ภาษามลายูเป็นภาษาไทย ทำลายเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของคนมนพื้นที่ เรื่องนี้เป็นการบิดเบือนข้อมูล ไม่ทีข้อเท็จจริง เราไม่มีการก้าวก่าย และเน้นเสมอว่าให้ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงในตัวตนทุกฝ่าย ให้รักความเป็นมลายูรักความเป็นปัตตานี รักความเป็นไทย
อีกเรื่องคือเรื่องการเกณฑ์ทหารให้ตรงกับวันฮารีรายอเป็นการกลั่นแกล้ง อันนี้เป็นเรื่องที่ทางกองทัพบก ได้จัดเตรียมดำเนินการไว้หลังจากเลื่อนการเกณฑ์ทหารมาตั้งแต่วันที่1เมษายนจนเลื่อนมาตรงกันพอดี เพราะไม่รู้ว่าวันฮารีรายอเกิดวันเดียวกันทั้งนี้ได้ส่งเรื่องรายงานให้ทางกองทัพยกแก้ปัญหาแล้ว และทางกองทัพได้รับทราบและตระหนักในเรื่องนี้ จะทำให้ไม่เกิดผลกระทบ กำลังดำเนินการแก้ปัญหาไว้แล้วเป็นการขยายเวลา ขยายวัน ทางกองทัพได้ข้อสรุปว่าเลื่อนให้ไม่ตรงกับวันจับสลากแล้ว