ชาวระยองยื่นเรื่อง ‘บิ๊กตู่’ ไม่ต้องการคำขอโทษ ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็ลาออกไป

ชาวระยองยื่นเรื่อง ‘บิ๊กตู่’ ไล่ตะเพิดรัฐบาล หากแก้ปัญหาไม่ได้ หลังปล่อยทหารอียิปต์ติดเชื้อโรค

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล คณะตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจ และตัวแทนประชาชนจังหวัดระยอง นำโดย น.ส.ธัชญา จวงสันทัด และน.ส.พรพรรณ เภตรารัตน์ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกร้องให้ยกเลิกการมีข้อยกเว้นแก่บุคคลต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยโดยการไม่กักตัว 14 วัน โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง

น.ส.ธัชญากล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่พบทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้เวลานี้ไม่ว่าชาวระยองจะไปสถานที่ใดก็ถูกมองว่าเป็นตัวเชื้อโรค ทั้งที่ชาวระยองให้ความร่วมมือป้องกันและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขด้วยดีมาตลอด และไม่พบผู้ติดเชื้อเป็นเวลากว่า 100 วัน เมื่อผ่อนคลายมาตรการ ก็เดินหน้าประกอบอาชีพ หลังจากที่ถูกล็อกดาวน์พร้อมกับจังหวัดอื่นๆ ทำให้ช่วงเวลา 4-5 เดือนที่ผ่านมาไม่มีรายได้แต่เราก็อดทนทำตามทุกอย่าง แต่การที่รัฐบาลและศบค. ปล่อยให้ชาวต่างชาติเข้ามาโดยไม่กักตัว เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ และต้องถามว่าคนเหล่านี้มีอภิสิทธิ์อย่างไร หรือมีการแบ่งชนชั้นหรืออย่างไร ที่ผ่านมาให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการย้ำว่าการ์ดอย่าตก

ทั้งนี้เราไม่ต้องการการขอโทษ แต่ต้องการให้ปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม และยกเลิกข้อยกเว้นให้ชาวต่างชาติเข้ามาโดยไม่กักตัว 14 วัน โดยไม่มีข้อยกเว้นว่าจะเป็นแขกของใครหรือเป็นคนสำคัญขนาดไหนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้กับพื้นที่อื่นอีก ซึ่งข้อผิดพลาดของศบค. และรัฐบาล ถึงแม้จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ ก็คงไม่เพียงพอ และเราอยากจะบอกว่า ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็ลาออกไป เพราะอายคนไทย อายคนต่างประเทศ ที่ไม่สามารถควบคุมและแก้ปัญหาได้ ทั้งนี้ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องที่สถานทูตอียิปต์ เพื่อให้ออกมาร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

“เราไม่ได้มาเรียกร้องการเยียวยาใดๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันแก้ไขอะไรไม่ได้นอกจากรออีก 14 วัน ซึ่งเป็น 14 วันนรกของชาวระยอง ว่าเราจะต้องกลับไปนับ 1 กันใหม่ หรือไปต่อได้ แต่เราต้องการความรับผิดชอบในการกระทำจากรัฐบาล และ ศบค. ว่าจะไม่นำเข้าชาวต่างชาติมาโดยไม่ได้รับการกักกัน 14 วันอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ” น.ส.ธัชญากล่าว