‘เทพไท’ เสนอเพิ่มพื้นที่ปลูกกระท่อม ฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ยุ่งยาก ขอลงพื้นที่พบปชช.

“เทพไท” เสนอเพิ่มพื้นที่ปลูกกระท่อม ชี้ฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ ยุ่งยาก คนรากหญ้าเข้าไม่ถึงสมาร์ทโฟน เตรียมลงพื้นที่ 8-10 ส.ค.รับฟังปชช.

วันที่ 15 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการปลดล็อกพืชกระท่อม แถลงกรณีนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ชี้แจงถึงขั้นตอนการอนุญาตให้ 135 หมู่บ้านหรือชุมชนนำร่อง ปลูก-เสพ-ครอบครองพืชกระท่อม ไม่ผิดกฎหมาย ว่า การกำหนดพื้นที่ 135 ชุมชน หมู่บ้าน 10 อำเภอ 10 จังหวัดนั้น ไม่ตอบโจทย์พื้นที่ปลูกพืชกระท่อมที่แท้จริง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ประกอบด้วย อ.ปากพนัง อ.หัวไทร อ.เชียรใหญ่ อ.ชะอวด จัดเป็นแหล่งกำเนิดพืชกระท่อมมาตั้งแต่สมัยโบราณ น่าจะได้รับการอนุญาตให้ปลูกพืชกระท่อม บริโภค ครอบครอง เป็นพื้นที่นำร่อง ตามแนวทางของสำนักงานป.ป.ส. แต่เมื่อป.ป.ส.ได้กำหนดพื้นที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว การเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการต้องแจ้งความประสงค์ต่อ สำนักงาน ป.ป.ส.เพิ่มเติมได้นั้น เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับประชาชน ชาวบ้านโดยทั่วไป จึงขอเสนอให้เพิ่มพื้นที่นำร่องเพื่อปลูกพืชกระท่อมในพื้นที่ 8 อำเภอ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ ปากพนัง,หัวไทร,เชียรใหญ่,ชะอวด,จุฬาภรณ์,ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ และพระพรหม เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงโครงการปลูกพืชกระท่อมของสำนักงาน ป.ป.ส.โดยไม่ผิดกฎหมาย

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนการเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนในเรื่องการปลดล็อกพืชกระท่อมผ่านเว็บไซต์นั้น เป็นเรื่องยุ่งยากที่ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดา คนรากหญ้าไม่สามารถเข้าถึงระบบสมาร์ทโฟน หรือเว็บไซต์ได้ ซึ่งเรื่องนี้คณะอนุกรรมาธิการ จะลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชน และแจกเสื้อยืดการรณรงค์ปลดล็อกพืชกระท่อมให้แก่ผู้ร่วมเวทีประชาพิจารณ์ทุกคน ในวันที่ 8-10 สิงหาคมนี้ เพื่อนำข้อมูลจากพี่น้องประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหา กัญชา กัญชง และพืชกระท่อมอย่างเป็นระบบ และเป็นข้อมูลในการประกอบการแก้ไขพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ต่อไป

นายเทพไทกล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะขอเสนอเปลี่ยนแปลงถ้อยคำใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 จากคำว่า เสพพืชกระท่อม เป็นบริโภคพืชกระท่อมแทน เพราะเมื่อพืชกระท่อมได้ถูกปลดออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 แล้ว และขณะนี้ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงเห็นว่าเมื่อพืชกระท่อมจะไม่เป็นพืชเสพติดอีกต่อไป จึงไม่ควรใช้คำว่าเสพพืชกระท่อม เหมือนกับการเสพยาเสพติดชนิดอื่นๆ อีกต่อไป