รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกเลิกแผนการที่จะเนรเทศนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งไม่ได้ลงเรียนในคอร์สที่ต้องเข้าเรียนในห้อง ร่วมกับการเรียนออนไลน์แล้ว

การเปลี่ยนแปลงนโยบายแบบกลับหลังหันดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่มีการประกาศนโยบายนี้ออกมา ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐส่วนใหญ่ต่างประกาศว่าจะทำการเรียนการสอนออนไลน์เต็มรูปแบบในเทมอหน้า เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ขณะที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอย่างฮาร์วาร์ดและเอ็มไอทีได้ยื่นฟ้องรัฐบาลต่อแผนการดังกล่าว โดยล่าสุดผู้พิพากษาศาลในแมสซาชูเซตส์ระบุว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้แล้ว

ทั้งนี้ในแต่ละปีมีนักศึกษาต่างชาติจำนวนมากเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนต่อในสหรัฐ และถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของมหาวิทยาลัยต่างๆ เพราะนักศึกษาต่างชาติจะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน

ประธานาธิบดีทรัมป์ได้พยายามกดดันให้มหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างๆ เปิดทำการเรียนการสอนตามปกติโดยเร็วที่สุด จนถึงกับขู่ว่าหากสถานศึกษาใดไม่เปิดสอนจะถูกตัดเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง เนื่องจากเขามองว่าการเปิดชั้นเรียนเป็นตัวบ่งชี้ถึงการกลับมาฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดใหญ่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความพยายามในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 ของเขาที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้