“เสธ.แมว” ชี้ เปลี่ยน กก.บห.พปชร.- 4 กุมารลาออก ปรับ ครม.คือปลายทาง

วันที่ 12 กรกฎาคม 2563 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเหตุการณ์เคลื่อนไหวทางการเมืองของปีกรัฐบาลสืบทอดอำนาจตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สุดท้ายปลายทางจบลงที่ต้องการคำตอบเดียว คือให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี(ค.ร.ม.) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปรับกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหญ่ ลามมาจนรัฐมนตรี 4 กุมารต้องลาออกจากสมาชิกพรรค แล้วก็จะลามต่อให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะพรรคขอยึดโควต้ารัฐมนตรีคืน ต่อด้วยเรื่องการประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่ม จากฤทธิ์ส.ส.ฝ่ายเดียวกันขาดประชุม แสดงพลังให้นายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจได้เห็น ถ้าขืนยึกยักแล้ว มือส.ส.ที่สนับสนุนอาจหล่นหายได้ ตามมาด้วยนายกสืบทอดอำนาจเดินสายพบสื่อมวลชน ก็เพื่อซื้อเวลาสร้างข่าวใหม่กลบข่าวการปรับค.ร.ม. แต่ประเด็นการเร่งรัดให้เกิดการปรับค.ร.ม.นั้น ถูกมองในสายตาของประชาชนว่า คือการจ้องเปลี่ยนคนมาแบ่งเค็กหาผลประโยชน์จากเงินกู้4แสนล้านแก้วิกฤติโควิด กับโครงการงบประมาณปี 64 มิใช่จะปรับค.ร.ม.มาเพื่อแก้ไขวิกฤติการณ์เศรษฐกิจได้แต่ประการใด ซึ่งมันก็น่าจะเป็นจริงเช่นนั้น

เพราะเมื่อมองย้อนกลับไป 6ปีที่ผ่านมาแม้ไม่เจอกับวิกฤติโควิด เศรษฐกิจของประเทศก็ไม่เคยโงหัวขึ้น สะท้อนว่าค.ร.ม.เศรษฐกิจของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ มิได้มีฝีไม้ลายมือแต่อย่างใด ยิ่งปรากฎข่าวรายชื่อทีมใหม่ ก็มีแต่เสียงร้องยี้จากสังคมหนักเข้าไปอีก ประเทศมันเดินมาถึงจุดที่ปรับค.ร.ม.ไม่เพียงพอแล้ว ความแร้นแค้นที่ประชาชนกำลังประสบ มันมาจากการไม่เคยเห็นหัวประชาชนของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ สถานการณ์มันจึงต้องเดินไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาลสถานเดียว

การเคลื่อนไหวแฟลชม็อบของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย เพื่อกดดันให้รัฐบาลนี้ต้องพ้นไป จะทะยอยปรากฎขึ้นภายในสิ้นเดือนนี้ เมื่อวันสำคัญได้ผ่านพ้นไป ประชาชนเขาหมดความอดทนที่จะยอมรับรัฐบาลนี้ต่อไปอีกแล้ว การเปลี่ยนรัฐบาลย่อมต้องเกิดขึ้นและไม่น่าจะเป็นเวลาที่ยาวนานนัก