วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 เมื่อเวลา 10.15 น. ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมสมาชิกพรรค แถลงกรณีการเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งสภากรุงเทพมหานคร(สก.)​ โดยนายพิธา ระบุว่า พรรคก้าวไกลพร้อมส่งผู้สมัคร 50 เขตกรุงเทพฯ รวมไปถึงสนามผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ

วันนี้เราเห็นแปลว่ากรุงเทพฯซึ่งถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความล้าหลัง ไม่ได้ทำหน้าที่เท่าที่ควร รวมถึงให้อำนาจกับประชาชนน้อยเกินไปถ้าเทียบกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ประชาชนกำลังรอการเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพฯ โดยการทำงานการเมืองแบบใหม่และสร้างสรรค์ เชื่อว่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้

และเราตั้งใจเป็นผู้ผลักดันและเริ่มกำหนดเป้าหมายอนาคตของชาวกรุงเทพฯ ผลักดันประชาชนกรุงเทพฯให้สิทธิมีเสียงในการแสดงออก ว่าทุกคนต้องการเปลี่นแปลงอะไร ปฏิรูปกรุงเทพอย่างแท้จริง ทันสมัย และมีอำนาจในการบริหารจัดการอนาคตของตัวเอง

โดยพรรคก้าวไกลจะเปิดรับสมัครผู้สมัครชิงเก้าอี้สมาชิกสภากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 11 -25 ก.ค. ผ่านเว็บไซต์ก้าวไกล จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้มีอุดมการณ์จะเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่จำเป็นต้องมีประวัติทางการเมืองหรือนามสกุลดัง

ก็สามารถเข้ามาร่วมทำงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้ ดังเช่นที่ส.ส.ของพรรคก้าวไกลร่วมกันผลักดัน นอกจากนี้ พรรก้าวไกลเตรียมพร้อมส่งชิงผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ ควบคู่ไปกับการสมัครสก. จึงขอแรงสนับสนุนจากพี่น้องชาวกรุงเทพฯทุกคน

“กรุงเทพฯมีปัญหาเก่าที่เกี่ยวกับโครงสร้าง โดยเฉพาะเรื่องคมนาคม ซ้ำยังมีวิกฤตโควิดทำให้เกิดปัญหาการสร้างงาน การศึกษา ตรงต้องพึ่งกลไกลจากท้องถิ่น ยุติรัฐราชการแบบรวมศูนย์ที่ไม่ได้ตอบโจทย์กทม. ซึ่งการจะเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แบบนี้ต้องใช้การเมืองระดับจังหวัดและการเมืองระดับประเทศควบคู่กัน โดยจะมีการแถลงในครั้งหน้า” นายพิธา กล่าว

ส่วนกระแสว่าบุคคลที่ได้รับคัดลเลือกมักเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับแกนนำพรรคนั้น นายพิธา กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เรามีกระบวนการในการสรรหา มีสมาชิกที่มีสิทธิเสียงในการนำเสนอ กรรมการบริหารในการตัดสินใจ พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นของพิธาหรือของชัยธวัช และเราไม่มีการใช้เส้นสายใดๆ

เมื่อถามว่า การส่งผู้สมัครลงลงเลือกตั้งครั้งนี้ได้มีการปรึกษาหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มี เพราะคิดว่านี่เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะนำเสนอนโยบายหรืออัตลักษณ์ของพรรคแก่ประชาชน เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

ด้านนาย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค กล่าวว่า หลังจากรับสมัครจะมีการคัดสรรในเดือนถัดไป โดยกระบวนการคัดสรรจะยึดโยงกับนโยบายของพรรค เชื่อว่าเราจะสามารถหาผู้ที่เหมาะสมได้ ส่วนข้อกังวลว่าจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคนั้นไม่มีความกังวล

เพราะเดิมทีตั้งแต่สมัยที่เป็นอนาคตใหม่ เราต้องการสร้างพรรคการเมืองที่เปิดกว้าง ไม่ผูกขาดโดยกลุ่มการเมืองหรือนักการเมืองในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เราต้องการพรรคที่เป็นพื้นที่เปิดให้มีการแข่งขัน เพื่อนำเสนอตัวเลือกที่ดีสุดแก่ประชาชน เป็นวัฒนธรรมการเมืองแบบใหม่ที่คาดว่าประชาชนจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรค กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯต้องการการเปลี่ยนแปลงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ต้องทำพร้อมกับนโยบายท้องถิ่นและการแก้ข้อกฎหมายต่างๆที่ทำให้คนกรุงเทพฯมีอำนาจบริหารตัวเองมากขึ้น

โดยก้าวไกลเน้นการพัฒนากรุงเทพฯโดยคืนอำนาจให้กับคนกรุงเทพฯ เปลี่ยนคนกรุงเทพจากผู้อาศัยให้กลายเป็นคนกรุงเทพที่แท้จริง เราเชื่อว่าคนกรุงเทพฯเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกลว่าจะสามารถผลักดันในส่วนนี้ได้ ส่วนเรื่องนโยบายยังคงต้องขอเวลาหารือสักระยะก่อนจึงจะแถลงเปิดตัวอีกครั้ง