หวั่นซิดนีย์ตามรอยเมลเบิร์น ล็อกดาวน์รอบ2 ตะลึงภาพคนต่อคิวเข้าผับ

วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ไนน์นิวส์ ออสเตรเลีย รายงานว่า ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ประกาศคำสั่งกักตัวผู้เดินทางมาจากรัฐวิกตอเรีย ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.ไว้ดูอาการ 2 สัปดาห์ หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่นครเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย จนต้องเริ่มล็อกดาวน์รอบสองแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 .ส่วนรัฐควีนส์แลนด์สั่งปิดพรมแดนฝั่งติดกับรัฐวิกตอเรีย

การล็อกดาวน์ที่เมลเบิร์นมีผลบังคับเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ครอบคลุมประชากร 5 ล้านคน ขณะที่รัฐวิกตอเรีย พบผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ 165 คน เป็นจำนวนมากที่สุดรองลงมาจากวันอังคาร 7 ก.ค. ซึ่งมีผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ 191 คน

ประชาชนในเมืองเมลเบิร์นและเขตมิตเชลล์ ไชร์ ที่อยู่ติดกันทางตอนเหนือ ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ยกเว้น ออกไปซื้อของกินของใช้ พบแพทย์ ออกกำลังกาย ออกไปศึกษาหรือทำงาน

สถานการณ์ของนครเมลเบิร์น ทำให้เกิดข้อสังเกตว่า นครซิดนีย์ ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ อาจต้องล็อกดาวน์ตามไป เนื่องจากมีการเดินทางของประชาชนจากเมลเบิร์นเข้ามายังนครซิดนีย์อย่างไม่ขาดสายตลอดสองสัปดาห์มานี้ นับเฉพาะการเดินทางโดยเครื่องบิน มีแล้วกว่า 200 เที่ยวบิน

นอกจากนี้ยังกรณีประชาชนบางกลุ่มในซิดนีย์ไม่รักษามาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มข้น หลังจากมีภาพถ่ายนักท่องราตรีและคอเหล้าต่อคิวยาวเหยียดรอเข้าร้าน “โกลเด้น ชีฟ” เขตดับเบิลเบย์ เมื่อช่วงสามทุ่มของคืนวันพุธที่ 8 ก.ค.

คนไปออเข้าผับดังกล่าวขณะมีโปรโมชันคืนวันพุธสำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะ คิดค่าเครื่องดื่มราว 110 บาท และมีดนตรีเล่นสดจนถึงตีหนึ่ง

เดลีเมล์ รายงานว่า ประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงถ่ายภาพนี้ไว้และโพสต์ในโลกออนไลน์ พร้อมกับเขียนข้อความว่า “อีกกี่วัน ที่ซิดนีย์จะต้องล็อกดาวน์ ?” อีกคนหนึ่งเขียนว่า “เห็นรูปนี้แล้ว ได้กลิ่นไวรัสโคโรนาเลยทีเดียว” รวมถึงข้อความว่า “รูปนี้ทำให้กังวลอย่างยิ่ง”

ด้านจัสติน เบเกอร์ ซีอีโอ โซโลเทล กรุ๊ป เจ้าของผับ “โกลเด้น ชีฟ” กล่าวว่าพนักงานร้านและตำรวจร่วมมือกันในทันทีเพื่อให้ฝูงชนคลายการรวมตัวและรักษาระยะห่างทางสังคม พร้อมย้ำว่าร้านปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์และพนักงานร้านรักษาสุขอนามัยตามคำแนะนำ

เราปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยสำหรับแขกและพนักงานอย่างเคร่งครัด และรับจองคิวเฉพาะคืนวันพุธ ตั้งแต่ 20.00 พร้อมทั้งจ้างพนักงานร้านและพนักงานรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติ่มเพื่อควบคุมการรักษาระยะห่าง อีกทั้ง จำกัดจำนวนคนจองคิวอย่างมาก 20 คนต่อช่วงเวลา” เบเกอร์กล่าว

ส่วนจอห์น กรีน ผู้อำนวยการฝ่ายสุราและความปลอดภัย สมาคมโรงแรมออสเตรเลียกล่าวว่าทุกโรงแรมในออสเตรเลียต้องจัดการให้มีระยะห่างทั้งภายในและภายนอกโรงแรม ส่วนโรงแรมที่เป็นที่ตั้งของผับโกลเด้น ชีฟ ต้องออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้มีการต่อคิวยาวอย่างนี้อีก รวมทั้ง เพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านนอกร้านและลาดตระเวนตรวจตราสถานการณ์นอกร้าน

นี่เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับผับทุกแห่งในนิวเซาท์เวลส์ เราต้องป้องกันไม่ให้โวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดและต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม” กรีนกล่าว

รัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ติดไวรัสรายใหม่ 8 คน ในจำนวนนี้ 7 คนเป็นนักเดินทางที่ต้องกักตัวในโรงแรม ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นหญิงวัยประมาณ 30 ปี อาศัยทางตะวันตกเฉียงใต้ของซิดนีย์ และกำลังสอบสวนสาเหตุการติดไวรัสอยู่ ส่งผลให้ขณะนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์มีผู้ติดไวรัสสะสม 454 คน

กลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ เตือนว่าการระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในชุมชนทางตอนใต้ของรัฐก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อรัฐนิวเซาท์เวลส์และแนะนำประชาชนในเมืองอัลเบอรีและเมืองอื่นๆ ที่มีพรมแดนติดกับรัฐวิกตอเรีย ไม่ให้เดินทางข้ามรัฐ

ออสเตรเลียมียอดสะสมผู้ป่วยโควิด 9,059 คน เพิ่มล่าสุดมา 173 คน ยอดรวมรักษาหายอยู่ที่ 7,575 คน และเสียชีวิต 106 ราย