เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ สน.ปทุมวัน นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ร่วมกันจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์แสดงอารยะขัดขืนต่อต้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกครั้ง หลังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งคู่ได้ฉีกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหารวมกลุ่มชุมนุมมั่วสุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และปฏิเสธไม่มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีการชุมนุมที่ลานสกายวอล์กแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยการเมืองที่ถูกอุ้มหายกลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ก่อนได้รับหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ล่าสุดทั้งคู่ก็ได้รับหมายเรียกในข้อหาเดียวกันในคดีการชุมนุมรำลึกถึงวันครบรอบ 88 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครองไทยโดยคณะราษฎร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนผ่านมา

นายพริษฐ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหาว่าการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ของพวกตนนั้นเป็นตัวการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งที่ทุกครั้งได้จัดมาตรการป้องกันโรคโดยจัดจุดคัดกรองพร้อมย้ำเตือนผู้ร่วมงานให้สวมใส่หน้ากากอนามัยโดยตลอด ไม่ทราบว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นต้องการควบคุมโรค หรือเพราะถ้อยคำในประกาศคณะราษฎรที่อ่านมันเสียดแทงใจหรือไม่ นอกจากนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังเป็นช่องทางทุจริต ทำให้รัฐบาลสามารถจัดซื้อจัดจ้างแบบด่วนพิเศษ เบิกงบฉุกเฉินไม่จำกัด หากผิดพลาดไม่ต้องรับผิดชอบ กลับกัน ประชาชนต้องเผชิญความลำบาก ขาดรายได้ หลายธุรกิจต้องปิดตัวลง ส่วนมาตรการช่วยเหลือเยียวยาก็ทำแบบขอไปที ไม่มีประสิทธิภาพ ขอเตือนว่ายาแรงใช้ไปมากๆ คนไข้ก็ตาย

น.ส.ปนัสยากล่าวว่า รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มากว่า 3 เดือนทั้งที่ไม่มีเหตุจำเป็น เพราะสามารถใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโรคได้ ตอนนี้รัฐบาลใช้ใบรับรองแพทย์ก่อรัฐประหารเงียบ ทุกครั้งที่รัฐบาลต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะอ้างการแพร่ระบาดของโรค ทั้งที่ไม่มีคนป่วยในประเทศมาเป็นเดือนแล้ว จึงต้องการเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที