ปชป.ปลื้มโพลให้คะแนนนิยมสูงสุดในพรรคร่วม มั่นใจ “บิ๊กตู่” เรียกความนิยมแซงฝ่ายค้านแน่

ปชป.ปลื้มโพลให้คะแนนนิยมสูงสุดในพรรคร่วม มั่นใจ “บิ๊กตู่” เรียกความนิยมแซงฝ่ายค้านแน่

ผลพวงจากผลสำรวจซูปเปอร์โพลซูเปอร์โพลเรื่อง “ถ้าวันนี้เลือกตั้งพรรคใดชนะ”พบว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมสูงกว่าพรรคพลังประชาชนและพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมว่า ซูเปอร์โพลสำรวจคะแนนนิยมพบว่าพรรค ปชป. มีคะแนนสูงกว่าพรรครัฐบาล อื่นๆ จะส่งผลต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่ ว่า ผลโพลนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่จะสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลสำหรับแต่ละพรรคการเมืองได้ แต่ผลโพลที่ปรากฏออกมาของซูเปอร์โพลนั้น จะเป็นกำลังใจส่วนหนึ่งให้กับพรรค ปชป. ที่จะได้เดินหน้าทางการเมืองต่อไป

อย่างน้อยที่สุดก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ระดับหนึ่ง ว่าสิ่งที่ได้ทำมาตลอดช่วงระยะเวลาก่อนหน้านี้เดินไปถูกทาง แม้จะไม่ทั้งหมด ที่แน่นอนจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขในบางเรื่อง หรือในอีกหลายเรื่อง แต่อย่างน้อยที่สุดก็สะท้อนให้เห็นว่าการมุ่งเน้นตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคต้องการเน้นผลงานมากกว่าคำพูด ทั้งนี้ ผลโพลที่ออกมาไม่คิดว่าจะมีผลกระทบอะไรพรรคร่วมรัฐบาล เพราะโพลก็คือผลสำรวจที่ปรากฏออกมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ในการที่จะต้องทำงานร่วมกัน ก็ยังต้องทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
โว52เสียงปชป.มีคุณภาพ

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้น อย่างน้อยก็เป็นที่รับรู้ของประชาชน และกลไกการเดินหน้าร่วมกัน ซึ่งในส่วนพรรค ปชป. ประสานงานกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคือ 1.กลไกในคณะรัฐบาล ในฐานะพรรคร่วม และในฐานะกระทรวงต่างๆ ที่เราเข้าไปรับผิดชอบ ก็ปรากฏผลงานเป็นรูปธรรมมากมายตามสมควร ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ในเรื่องของการทำงานร่วมมือกับภาคเอกชนมาโดยลำดับ การให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส มาตรการต่างๆ ที่ออกมาช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ คนยากจน กลุ่มซาเล้ง และกลุ่มอื่นๆ เป็นต้น ก็ทำให้พี่น้องประชาชนชาวไทยเห็นผลงานที่ปรากฏ 2.นอกจากกลไกในรัฐบาลก็คือ กลไกในสภาผู้แทนราษฎร การทำหน้าที่ของ ส.ส.ก็สะท้อนให้เห็นเป็นที่ยอมรับของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ แม้ตอนนี้จะเหลือแค่ 52 เสียงก็ตาม แต่ก็เป็น 52 เสียงที่มีคุณภาพในการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติและ 3.กลไกภายในพรรค ปชป. ซึ่งทีมอเวนเจอร์ของพรรคและทั้งการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคของตน ทั้งของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารคนอื่นๆ สะท้อนให้เห็นว่าเป็นที่ยอมรับตามสมควร

จัดจุรินทร์ออนทัวร์ทั่วปท.

“ถัดจากนี้ไปผมก็มีแนวทางในการที่จะเดินทางไปพบปะกับพี่น้องประชาชนในทุกภาค ในรูปแบบของจุรินทร์ออนทัวร์ที่จะเดินทางไปในทุกภูมิภาคของประเทศ พร้อมกับคนรุ่นใหม่ของพรรค ซึ่งมีอยู่หลายท่าน ทั้งที่ได้เริ่มเข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรค และกำลังจะเดินเข้ามาในอนาคต สำหรับคนที่อยู่ในพรรคและเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะร่วมเดินทางไปกับผม เช่น ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคนรุ่นใหม่อื่นๆ ที่จะได้เดินทางร่วมขบวนกันไป เพื่อพบกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศในการรับฟังปัญหา หากคลี่คลายปัญหาอะไรให้ได้ก็จะทำทันที ขณะเดียวกันอะไรที่ยังไม่ได้ทำ หรือเป็นแนวคิดที่เป็นประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศก็จะได้นำมากำหนดเป็นนโยบายต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว

ฟุ้งผลงานรมต.จับต้องได้

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของซูเปอร์โพลระบุพรรค ปชป.เป็นอันดับที่ 3 รองจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และเพื่อไทย ที่คนจะเลือกหากมีการเลือกตั้งใหม่ว่า ในฐานะเป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคเห็นว่าเมื่อพิจารณาผลโพลก็มั่นใจในการทำงานของพรรค ปชป.ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากมีผลสำรวจสูงที่สุดในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล เพราะรัฐมนตรีของพรรคทุกคนมีผลงานที่ประชาชาชนจับต้องได้และทำได้เร็ว เช่น โครงการประกันรายได้เกษตรกรที่สามารถเยียวยาและยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 7 ล้านครัวเรือน โครงการเพิ่มค่าป่วยการให้พี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ โครงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น

ส่วนผลสำรวจของพรรคร่วมรัฐบาลน้อยกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น ประชาชนอาจมองว่าช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 มีความลำบากในการดำรงชีวิตประจำวัน แต่หลังจากที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการป้องกันการเเพร่ระบาด ประกอบกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านเงินงบประมาณตาม พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อเยียวยาฟื้นฟูวิกฤตไวรัส รวมถึงเงินงบประมาณทั้งปี 63 ที่รัฐบาลกำลังเร่งใช้จ่ายและความต่อเนื่องในการบริหารจัดการงบประมาณปี 64จะสามารถสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลได้

มั่นใจคะแนนนิยมรบ.พุ่งขึ้น

“เชื่อมั่นว่าหลังจากนี้รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะสามารถเรียกคะแนนนิยมให้กับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้กลับมานำพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเเน่นอน เนื่องจากเศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมั่นใจในสายตานักลงทุนเรื่องความปลอดภัยจากเชื้อไวรัส และจะทำให้ประเทศไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก งบประมาณที่ลงไปฟื้นฟูเศรษฐกิจจะทำให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการลงทุนภาครัฐ จะสร้างงาน สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายเม็ดเงินจะไหลลงไปสู่พี่น้องประชาชนและทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยการบริโภคของภาคประชาชน เชื่อว่าจากนี้ไปคะเเนนนิยมของพรรคร่วมรัฐบาลจะดีขึ้นตามลำดับ ด้วยฝีมือเเละการทำงานที่ทุ่มเทของรัฐบาล ที่มีนายกฯและรัฐมนตรีทุกคนทำงานกันอย่างสอดประสานสามัคคีเพื่อประชาชน “รองโฆษกพรรค ปชป.กล่าว