เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดทำร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ว่า เมื่อร่าง พ.ร.บ.งบ 2564 เข้าสู่ชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ก็คงจะไม่มีการแบ่งฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ทั้งนี้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ก็ร่วมกันวิเคราะห์และวิจารณ์ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ด้วยเช่นกัน เรายังจึงมีโอกาสที่จะแก้ไข เมื่อร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณ พ.ศ.2563 ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก็จะมีการปรับตัวเลขงบประมาณครั้งใหญ่ เพราะร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2564 ยังไม่ได้สะท้อนการปรับโอนงบประมาณ เช่นโครงการซื้อเรือดำน้ำ ที่ถูกตัดโครงการทิ้งไปเมื่อปี 2563 แต่เมื่อมาพิจารณาในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2564 กลับมีการดำเนินการจ่ายเงินในงวดที่ 2 ดังนั้น จึงต้องมีการแก้ไขและปรับปรุง หน้าที่ต่อมาของ กมธ. คือ การจัดลำดับความสำคัญใหม่ว่าโครงการไหนที่ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำในช่วงเวลานี้ คือไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหรือทำให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งอาจจะตัดออกทั้งโครงการ

ทั้งนี้ โครงการที่เขียนจุดประสงค์ไว้กว้างๆ อาจจะต้องปรับปรุงจุดประสงค์และตัวชี้วัดให้ปรับปรุงเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนนี้อาจจะทำได้ยากแต่ก็จะเสนอไปที่หน่วยงานราชการต่างๆ ให้ปรับปรุงเป้าหมายและตัวชี้วัด เช่น โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ตั้งเป้าหมายว่า จะทำให้รายได้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นให้มีผู้ประกอบการที่ได้รับการเยียวยาเพิ่มขึ้น

จากนั้นในช่วงแปรญัตติเรายังพอมีโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีความสำคัญ และควรได้รับงบประมาณเพิ่มส่งคำของบประมาณเข้ามา และเราจะใช้กลไกใน กมธ. เพื่อโหวตนำโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเข้ามา เช่น งบบัตรทอง ที่ต้องรองรับคนตกงานและว่างงานที่จะไม่ได้สิทธิในการใช้ประกันสังคม หรือเด็กที่ต้องได้รับความช่วยเหลือต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน เนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองมีรายได้ลดลง เพื่อให้เด็กเรานี้ได้กลับเข้าสู่ระบบอีกครั้งหนึ่ง และจัดงบช่วยเหลือให้พ่อแม่อีกต่อหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการตัดงบประมาณในกระทรวงหรือหน่วยงานที่ไม่มีความจำเป็น เช่น กระทรวงกลาโหม น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ตอนที่ดูโครงการในรอบแรกเราตั้งเป้าไว้ว่าจะตัดงบของกระทรวงกลาโหม 11,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้โอกาสทางหน่วยงานได้เข้ามาชี้แจงเหตุผล ว่าโครงการเหล่านี้ยังมีความจำเป็นเพียงใด ด้วยสถานการณ์แบบนี้ เราจะต้องเปลี่ยนวิธีการการคิดแบบใหม่ที่อาจจะต้องรถดีกรีการเตรียมความพร้อมความมั่นคงทางการทหารลง และเพิ่มดีกรีความพร้อมทางสาธารณสุขแทน เราจะใช้ชุดเหตุผลนี้เพื่อโน้มน้าวสมาชิก กมธ.ท่านอื่น ให้เห็นด้วยกับเราและโหวตตัดงบกลาโหม และ กอ.รมน. ให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวถามถึงการอภิปรายของพรรคก้าวไกลครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีลีลายั่วโมโหฝ่ายรัฐบาล น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ในรอบนี้ได้เปลี่ยนวิธีการอภิปราย เพราะตนทำหน้าที่อภิปรายสรุป ซึ่งเราจะต้องโน้มน้าวให้ ส.ส.พรรคอื่นๆ โหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ วิธีการนำเสนออาจจะแตกต่างไปจากครั้งอื่นๆ ที่ไม่ได้เน้นในตัวเลขวิชาการมากนัก โดยเสริมโวหารที่หนักแน่น รุนแรง และเกรี้ยวกราดมากขึ้นอีกนิดหนึ่ง เพื่อทำให้คนเปลี่ยนใจและเชื่อในสิ่งที่เรากำลังนำเสนอและต้องการ

ส่วนผลซูเปอร์โพลที่ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ว่าหากจัดเลือกตั้งช่วงนี้พรรคก้าวไกลจะได้รับเลือกตั้งจากประชาชนมากที่สุด น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ถือว่าเป็นข่าวที่ดีจริงๆ โพลอาจจะทำก่อนที่จะมีการอภิปรายร่างงบประมาณก็ไม่ทราบ แต่ก็อย่างที่บอกไป ตอนอภิปรายว่าเราเสนองให้นายกรัฐมนตรียุบสภาก็รู้ว่าหลายพรรคการเมืองอาจจะไม่มีความพร้อมและไม่อยากที่จะลงเลือกตั้งในตอนนี้ แต่ว่าพรรคก้าวไกลเราพร้อมเสมอ เพื่อถามความเห็นของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ผลโพลก็อาจจะเป็นตัวสะท้อนเล็กๆ น้อยๆ ว่าคะแนนนิยมเรายังคงอยู่และเป็นกำลังใจให้เราทำงานอย่างเต็มที่และเป็นตัวแทนของประชาชนต่อไป