เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แถลงว่า กรณีพล.อ. เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผบ.ทบ.สหรัฐฯและคณะ จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.นี้ ในฐานะแขกของกองทัพบก หลังได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยตามข้อตกลงพิเศษ หรือ Special Arrangement ในฐานะแขกทางการ ที่เข้าเงื่อนไขไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการ 6 ข้อ ของ ศบค. อย่างเคร่งครัด ซึ่งทุกคนยินดีและพร้อมปฎิบัติตาม ขอประชาชนคลายความกังวลนั้น

“คำแถลงดังกล่าวเป็นคำพูดที่สวยหรูแต่ฟังไม่ขึ้นและรับไม่ได้ เพราะเป็นการชี้ให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติ มี 2 มาตรฐานของ ศบค.และรัฐบาลโดยชัดแจ้ง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 27 วรรคสาม และ มาครา76 เพราะไม่มีอะไรเป็นหลักประกันในคำพูดของเลขาธิการ สมช.ว่าการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะ จะไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของโควิด-19 จากสหรัฐมาสู่คนไทย เนื่องจากผลสำรวจของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (ซีดีซี) ของสหรัฐอเมริกาล่าสุดพบว่า มากกว่าครึ่งของ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ 54% ไม่รู้ตัวว่าไปติดโรคมาจากไหน สะท้อนแนวโน้มการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้เป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการ “นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ดังนั้น ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะ ที่มาจากประเทศที่มีสถิติของผู้ที่ติดเชื้อมากที่สุดในโลกเกือบ 3 ล้านคน จะเชื่อใจได้อย่างไรว่าบุคคลเหล่านั้นอาจเป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการ ที่สำคัญเลขาฯ สมช.กล้าเอาตำแหน่งค้ำประกันและรับผิดชอบหรือไม่ ว่าจะไม่มีปัญหาการแพร่เชื้อโควิด-19 จาก ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะ ทั้งนี้หากรัฐบาล ศบค.และ สมช.ยืนกรานที่จะไม่ใช้มาตรการกักตัว 14 วันสำหรับ ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะในครั้งนี้ เพื่อความเชื่อมั่นและความอุ่นใจของประชาชนไทย ขอให้บุคคลที่มีโอกาสเข้าพบปะ หารือ และใกล้ชิด ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะทั้งหมดทุกคนต้องถูกกักตัวใน State Quarantine ในประเทศไทยเป็นเวลา 14 วันก็น่าจะพอสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้เกิดขึ้นกับคนไทยทั้งชาติที่มองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือ 2 มาตรฐานได้