‘อานนท์’ โต้ ‘ศรีสุวรรณ’ ไม่เห็นใจความเดือดร้อนของเกษตรกร เตรียมฟ้องกลับ

‘อานนท์’ โต้ ‘ศรีสุวรรณ’ ไม่เห็นใจความเดือดร้อนของเกษตรกร เตรียมฟ้องกลับ

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน เรารักประเทศไทย อดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง เปิดเผยว่า จากที่นายศรีสุวรรณ ได้ออกมากล่าวหากลุ่มวิสาหกิจชุมชนในนาม “เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย” ในฐานะที่ตนเองเคยเป็นอดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง และประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้ก่อตั้งหมู่บ้านไปทั่วประเทศไทยรวมทั้งหมด 28,850 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่ในการต่อสู้ของหมู่บ้านเสื้อแดง จะไม่เหมือนกลุ่ม นปช. เพราะเราจะส่งเสริมให้ประชาชนในหมู่บ้านสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นแล้ว ยังได้รวมตัวกันของกลุ่มเกษตรกรภายในหมู่บ้าน จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548 โดยเฉพาะกลุ่มเพาะเห็ด กลุ่มเลี้ยงโค กลุ่มเลี้ยงปลา กลุ่มเลี้ยงเป็ด-ไก่ และกลุ่มสินค้า OTOP ในช่วงสภาวะวิกฤตไวรัส covid-19 ระบาด กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแต่ละกลุ่มก็สามารถช่วยเหลือและประคับประคองตนเองได้ แต่การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นระยะเวลานานหลายเดือน กลุ่มเกษตรกรที่เคยช่วยเหลือตัวเองได้ ก็ได้รับความเดือดร้อน และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแต่ละจังหวัดก็ได้มาปรึกษาตนเองพร้อมกับเข้าขอความช่วยเหลือ ต่อทางนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล เพราะตนเองและสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดงได้ยุบและสลายในการเป็นคนเสื้อแดงตั้งแต่หลังการปฏิวัติ ปี พ.ศ.2557 เปลี่ยนมาเป็น “หมู่บ้านเห็ด” จึงทำให้การเชื่อมโยงระหว่างตนกับทางรัฐบาลเกิดขึ้นได้ง่าย ผ่านทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี คัดสรรเอากลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีความพร้อมและดำเนินกิจการทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง แล้วต่อใบอนุญาตกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชน 2548 จำนวน 3,058 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน จาก 20,850 หมู่บ้าน และเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินการอยู่แล้ว “ไม่ได้จดใหม่” อย่างที่นายศรีสุวรรณ กล่าวอ้างแต่อย่างไร

“การที่นายศรีสุวรรณ ออกมาพูดเช่นนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญและเห็นใจประชาชนชาวเกษตรกรรากหญ้าที่กำลังได้รับความเดือดร้อน หลังสภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาด และการยื่นเอกสารต่อทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ตนได้ยื่นเสนอตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เพื่อเสนอพิจารณา และทางรัฐบาลเองก็ได้รับทราบพร้อมกับให้เจ้าหน้าที่กรม และ กระทรวงต่างๆ มาชี้แจงระเบียบขั้นตอนของการของบประมาณให้ถูกต้องตามระเบียบของสภาพัฒน์ ยังไม่มีการอนุมัติงบประมาณให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออกมาใช้แม้แต่บาทเดียว”นายอานนท์ กล่าว

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนเห็นข่าวแบบนี้ รู้สึกสงสารเกษตรกรรากหญ้าเป็นอย่างมาก ที่นายศรีสุวรรณ ออกมาให้ข่าวเช่นนี้ เพราะวันนี้ทางรัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสมานฉันท์ ไม่สร้างความแตกแยก ทุกหมู่เหล่าให้ร่วมมือร่วมใจกันรวมพลัง “รวมไทย สร้างชาติ” เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินต่อได้ ที่สำคัญนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ก็ได้เน้นหนักกับตนเสมอว่าทางรัฐบาลอยากช่วยประชาชนและเกษตรกรที่รับความเดือดร้อน อยากให้มีการสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

“ถ้านายศรีสุวรรณ ออกมาให้ข่าวเช่นนี้ ยิ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนมากยิ่งขึ้น น่าจะร่วมมือกันสร้างความสมานฉันท์ สร้างพลังร่วมใจกันสร้างชาติเหมือนกับพล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้แนวทางไว้ ตนในฐานะประธานเครือข่ายฯ จึงอยากฝากบอก นายศรีสุวรรณ ว่าอย่าทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อนและออกมาเรียกร้องอีกครั้งเลย เพราะการจุดชนวนในครั้งนี้ก็คือนายศรีสวรรณเอง ซึ่งอาจจะเป็นชนวนที่หวังผลสร้างความขัดแย้งให้กลุ่มเกษตรกรเกลียดชังนายศรีสุวรร”นายอานนท์ กล่าว

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการเสนอโครงการในรายละเอียดตามขั้นตอนระเบียบราชการ และยังไม่เคยได้รับการอนุมัติงบแม้แต่บาทเดียว และทางนายสุภรณ์ เองเป็นเพียงผู้รับเรื่องประสานงานไม่มีมีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้กับเกษตรกรใดๆทั้งสิ้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบราชการอย่างถูกต้องทุกประการ ตนขอท้าให้ตรวจสอบได้เลย

“ดังนั้นถ้านายศรีสุวรรณกล่าวหาใส่ร้ายดูหมิ่นดูแคลนเครือข่ายวิสาหกิจของกลุ่มตน ผมในฐานะประธานเครือข่ายฯก็จะขอใช้สิทธิปกป้องกลุ่ม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับนายศรีสุวรรณต่อไปเช่นกัน” นายอานนท์ กล่าว