ตึงเครียด! คู่สามี-ภรรยาชักปืนขู่ม็อบต้านเหยียดสีผิว บุกบ้านเดินลัดสนาม

วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซีเอ็นเอ็นรายงานกระแสการถกเถียงสุดแหลมคมที่นครเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา กรณีคู่สามี-ภรรยา ใช้อาวุธปืนเล็งขู่เพิ่ขับไล่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวที่บุกรุกเข้ามาในเขตพักอาศัยส่วนบุคคล เพื่อเดินลัดสนามไปชุมนุมยังศาลาว่าการของนายกเทศมนตรี

คลิปวิดีโอ 2 ไฟล์ ซึ่งทางซีเอ็นเอ็นได้รับมาจากผู้สื่อข่าวพลเมืองที่เดินทางไปกับกลุ่มผู้ประท้วงเผยให้เห็นชายถือปืนไรเฟิล และหญิงผิวขาวถือปืนสั้นเล็งไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งกำลังเดินทางไปแสดงความไม่พอใจต่อนางลิดา ครูว์สัน นายกเทศมนตรีนครเซนต์หลุยส์ กรณีเปิดเผยชื่อที่อยู่ของบรรดาผู้ที่เขียนจดหมายไปเรียกร้องให้ปฏิรูปองค์กรตำรวจ

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ย่านพอร์ตแลนด์ เพลซ เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. โดยนายเดเนียล ชูลาร์ ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น อยู่ในที่เกิดเหตุและคอยถ่ายคลิปตลอดเวลาตึงเครียดนานกว่า 10 นาที หลังผู้ประท้วงประมาณ 500 คน เดินลัดสนามเข้าไปในที่ส่วนบุคคลเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ที่ปิดกั้นเส้นทางบนถนนไปสู่ศาลาว่าการ

นายชูลาร์ ระบุว่า ประตูรั้วโลหะของพอร์ตแลนด์ เพลซ ไม่ได้ล็อก ทางกลุ่มผู้ประท้วงจึงตัดสินใจเปิดประตูและเดินเข้าไปภายใน แต่ก็ต้องพบกับสามี-ภรรยาผิวขาวคู่หนึ่ง ทราบชื่อภายหลังว่านายมาร์ก และนางเพทริเชีย แม็กคลอสกีย์ เดินออกมาจากภายในคฤหาสถ์พร้อมกับอาวุธปืน โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่นางแม็กคลอสกีย์ใช้อาวุธปืนเล็งไปในทิศทางของกลุ่มผู้ประท้วงด้วย

นายแม็กคลอสกีย์ กล่าวชี้แจงภายหลังว่า “ตอนเกิดเรื่องมีคนกว่าร้อยทุบทำลายประตูรั้วบุกเข้ามาในพอร์ตแลนด์ เพลซ แล้วเดินมาทางคฤหาสถ์ของผม ขณะผมกับครอบครัวกำลังทานอาหารค่ำกันอยู่นอกบ้าน จนพวกเราเกิดความกลัวสุดขีด”

ด้านเอกสารที่ทางซีเอ็นเอ็นตรวจสอบพบว่า คู่สามี-ภรรยาตระกูลแม็กคลอสกีย์ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและที่อยู่อาศัยในพอร์ตแลนด์ เพลซจริง ตามที่ทั้งคู่อ้าง

นายอัลเบิร์ต เอส. วัตกินส์ ทนายความของครอบครัวแม็กคลอสกีย์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ประท้วงไม่ได้เป็นที่รังเกียจจากตระกูลแม็กคลอสกีย์ ตรงกันข้ามทางครอบครัวแม็กคลอสกีย์เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนแนวคิดเดียวกันกับผู้ประท้วง แต่พฤติกรรมของผู้ประท้วงบางคนที่มีความก้าวร้าวและทำลายทรัพย์สินผู้อื่น รวมทั้งการบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อให้เกิดความกลัวว่าจะมีอันตรายถึงชีวิตของทางตระกูลแม็กคลอสกีย์

นายวัตกินส์ ยืนยันอีกว่า การกระทำของครอบครัวแม็กคลอสกีย์ถือว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมอย่างเต็มที่ตามกฎหมายเพราะอยู่บนพื้นที่กรรมสิทธิ์ของตัวเอง และมีมูลเหตุมาจากความหวาดกลัวอันตราย มิได้เกี่ยวข้องกับความเกลียดชัง หรือการเลือกปฏิบัติเพราะสีผิว สะท้อนจากข้อเท็จจริงที่ว่าบุคคลที่เริ่มนำผู้ประท้วงบุกเข้ามานั้นเป็นคนผิวขาวด้วยซ้ำ

แถลงการณ์ของครอบครัวแม็กคลอสกีย์ ระบุว่า “พอร์ตแลนด์ เพลซ เป็นที่ส่วนบุคคล ไม่มีทางเดินและถนนสาธารณะ มีคนบอกเราว่าเราอาจถูกฆ่า ถูกเผาบ้าน ไม่เว้นแม้แต่สุนัขของเรา ตอนนั้นมีแค่พวกเราสองคนเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงนับร้อยคน”

ส่วนอีกคลิปหนึ่งมาจากนางสาวเอเวอรี่ ริส์ช หนึ่งในผู้ประท้วง เผยให้เห็นบรรยากาศตึงเครียดตอนหนึ่งที่มีผู้ประท้วงบางคนเข้าไปปะทะคารมกับนางแม็กคลอสกีย์ จนทั้งสองฝ่ายใช้วาจาผรุสวาทกันและนางแม็กคลอสกีย์ใช้ปืนพกเล็งใส่ผู้ประท้วง

นางริส์ช เล่าว่า “ตอนเกิดเรื่องในม็อบเองเราก็มีบาทหลวงแล้วก็ผู้จัดการประท้วงเดินทางมาด้วย เค้าบอกว่าสนามหญ้าตรงนี้มีผู้หญิงกับชายถือปืนรออยู่ ถ้ากลัวก็อย่าเข้าไป โดยบรรดาบาทหลวงและผู้จัดงานต่างรีบบอกให้ทุกคนเดินผ่านไปให้เร็วที่สุด และอย่าไปสนใจ”

ด้านสำนักงานตำรวจนครเซนต์หลุยส์ ระบุว่าอยู่ระหว่างสืบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่นางคิมเบอร์ลี เอ็ม การ์ดเนอร์ อัยการของนครดังกล่าว ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นอันตรายอย่างยิ่ง

“เราจำเป็นต้องปกป้องบุคคลให้สามารถใช้สิทธิประท้วงตามรัฐธรรมนูญได้ การกระทำใดๆ ที่มีท่าทีข่มขู่ หรืออาฆาตมาดร้ายด้วยอาวุธจะต้องถูกจัดการอย่างเฉียบขาดตามบทบัญญัติโทษสูงสุดของกฎหมายรัฐมิสซูรี” นางการ์ดเนอร์ ระบุ

แถลงการณ์สำนักงานตำรวจนครเซนต์หลุยส์ ระบุว่า ตำรวจได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวแม็กคลอสกีย์ เนื่องจากได้ยินเสียงกลุ่มคนจำนวนมากบุกรุกและทำลายประตูรั้วเข้ามาทั้งๆ ที่มีป้ายเตือนว่า “พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามบุกรุก”

ขัดแย้งกับสิ่งที่พยานที่เกิดเหตุระบุว่า ไม่พบว่ามีป้ายดังกล่าวอยู่ และรั้วไม่ได้ลงกลอน ไม่เห็นการทุบทำลายใดๆ โดยคลิปแรกเผยให้เห็นว่าประตูรั้วซีกซ้ายนั้นถูกเปิดค้างไว้เฉยๆ แต่อีกคลิปหนึ่งเผยให้เห็นซีกขวาถูกพังลงไปกองอยู่กับพื้น และมีลักษณะบิดงอ

ต่อมาประมาณ 20 วินาที คู่สามี-ภรรยาแม็กคลอสกีย์ จึงออกมาจากบ้านพร้อมอาวุธครบมือ และตะโกนขับไล่ให้ผู้ประท้วงออกไปจากเขตบ้านของตน โดยทางครอบครัวแม็กคลอสกีย์ ระบุว่า เห็นผู้ประท้วงบางคนติดอาวุธ จึงต้องรีบนำปืนออกมาเพื่อป้องกันตัว อย่างไรก็ดี ขณะเกิดเหตุนั้นไม่มีผู้ประท้วงคนใดใช้อาวุธปืนที่นำมาด้วยเพื่อข่มขู่ตระกูลแม็กคลอสกีย์