สืบเนื่องจากเพจเฟซบุ๊ก “พักก่อน” โพสต์ข้อความเตือนภัย พร้อมภาพหนุ่มเปลือยล่อนจ้อนภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และสวนลอยฟ้าภายในมหาวิทยาลัย พร้อมข้อความว่า (ช่วยแชร์กันเตือนภัยด้วย) แว๊บๆ เห็นในทียูแควร์โรคจิตมาถ่ายรูปล่อนจ่อนตามจุดต่างๆ กลางคืนในมหาลัย คำถามคือ 1.ทางมหาวิทยาลัยจะมีมาตราการป้องกันอย่างไร? 2.ทำไมบุคคลเหล่านี้ถึงเข้ามาได้ เขาเป็นใคร? และที่สำคัญที่สุด เคสนี้อาจเป็นยอดภูเขาน้ำแข็งปัญหาที่เราเห็นกันจากภัยอันตรายตอนกลางคืน เพื่อนๆ ทุกคนไม่ว่าเพศไหนก็ระมัดระวังตัวด้วยครับ รวมถึงมหาวิทยาลัยต้องดูแลความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของนักศึกษาให้มากกว่านี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มธ. กล่าวว่า ได้รับทราบเหตุชายที่เผยแพร่ภาพอนาจารดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 25563 หลังจากนั้นได้แจ้งความลงประจำวันกับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.คลองหลวง เพื่อให้ติดตามชายคนในภาพมาดำเนินคดี จากภาพที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์พบว่าเป็นจุดรอรถโดยสาร บริเวณตรงข้ามคณะสาธารณสุขศาสตร์ และอีกจุดหนึ่งเป็นสวนที่อยู่บนหลังคาของอุทยานเรียนรู้ป๋วย 100 ปี เป็นบริเวณบันไดทางขึ้น ซึ่งเป็นสวนสาธารณะ ที่เปิดให้คนทั่วไปมาพักผ่อน

ผศ.ดร.ปริญญากล่าวว่า คาดว่าผู้ก่อเหตุจะลงมือเวลาที่ไม่มีคน โดยใส่เสื้อผ้าเข้ามาปกติ ก่อนจะถอดออกเพื่อถ่ายภาพ จากนั้นใส่เสื้อผ้า พร้อมย้ายไปถ่ายยังจุดอื่นต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าผู้ก่อเหตุจะมาดูลาดเลาแล้วพบว่าจุดดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่มี รปภ.ผ่านมา ซึ่งอยากให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นตัวอย่างในการช่วยกันแก้ปัญหา มีความปลอดภัย ทำให้พื้นที่สาธารณะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เมื่อเกิดเหตุแล้วเราต้องแก้ไขปัญหา ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เต็มที่กับเราในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย ด้านตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายนี้

ผศ.ดร.ปริญญากล่าวว่า อาคารอุทยานเรียนรู้ป๋วย 100 ปี เปิดมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เปิด 24 ชั่วโมง ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาพักผ่อนได้ ปกติแล้วทางมหาวิทยาลัยมีมาตรการในการเข้าออก ซึ่งเราไม่มีการปิดทุกประตูแล้วตรวจบัตรแลกบัตรก่อนเข้าออก เมื่อประชาชนทั่วไปเข้ามาแล้วก็สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ กระทั่งผู้ก่อเหตุรายนี้นำภาพไปโพสต์ แล้วใช้ถ้อยคำประมาณว่า สามารถทำแบบนี้ได้ในธรรมศาสตร์ ผมคิดว่าเขามีเจตนาถ่ายแล้วนำมาโพสต์ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิด ไม่ว่าที่ใด ทั้งนี้ เมื่อเหตุแบบนี้เกิดแล้วเราก็ต้องช่วยกันแก้ไข เมื่อเราทราบเหตุเราก็ประสานงานกับตำรวจทันที

“ทางมหาวิทยาลัยจะอาศัยแต่ตำรวจก็ไม่ได้ เราต้องอาศัยตัวเราเองช่วยกันสอดส่อง รวมถึงกำชับให้ รปภ.มีความเข้มงวดขึ้น กล้องวงจรปิดก็ต้องมีให้มากขึ้น เนื่องจากเหตุลักษณะนี้มักจะเกิดในจุดที่ไม่มีกล้องงวจรปิด หรือ รปภ.เว้นระยะห่างออกไป ส่วนเบาะแสเรายังไม่ทราบเลยว่าเป็นใครมาจากไหน ในทางสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ ต้องปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน พื้นที่สาธารณะจำเป็นต้องมีความปลอดภัย แม้ว่ากรณีนี้ยังไม่มีการคุกคามทางเพศ แต่ว่าการที่มาทำอะไรแบบนี้ในพื้นที่สาธารณะของมหาวิทยาลัยถือว่าเป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้ ต้องแก้ไขทันที” ผศ.ดร.ปริญญากล่าว

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่