“ก้าวไกล” ร้องรัฐปลดล็อกธุรกิจกลางคืน ย้ำทุกคนมีความฝัน มีครอบครัวต้องดูแล

วันที่ 18 มิถุนายน 2563 ที่อาคารรัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล แถลงจากกรณีที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการจากสถานการณ์โควิด-19 ระยะที่ 4 โดยระบุว่าสามารถจำหน่ายสุราได้ ตามสถานบริการ แต่ไม่อนุญาตให้เล่นดนตรีสด หากไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ตนจึงขอตัวแทน ของคนกลุ่มเล็กๆในสังคมที่ได้รับผบกระทบโควิด -19 เเละในฐานะที่ตนเคยเป็นนักดนตรีกลางคืน มาก่อน ย่อมรับทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ว่ามันมีผลกระทบมากเพียงไร ต่อชีวิตเเละครอบครัวา ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการปลดล็อกมาตรการเกือบทั้งหมดเเล้ว เหลือเพียงธุรกิจกลางคืนเท่านั้น ที่ยังไม่ปลดล็อกให้สถานบริการกลางคืน ได้เดินหน้าหลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างมหาศาล

“ไม่ใช่ทุกอาชีพในธุรกิจกลางคืนที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดในสถานการณ์โควิด ผมยกตัวอย่างนักดนตรี นักดนตรีไม่ได้มีความใกล้ชิดกับลูกค้า ไม่ได้มีความเสี่ยง ที่ทำให้เกิดการระบาดโควิด ธุรกิจกลางคืน เเละคนทำงานกลางคืน เป็นอาชีพที่สุจริต สร้างความสุข คลายความเหนื่อยล้า ให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวมาหาความสุขมอบบริการ ตามที่เรียกสถานที่เหล่านี้ว่า สถานบันเทิง ให้เสียงเพลง สร้างความฝัน รวมถึงสร้างอาชีพเลี้ยงปากท้องของคนในครอบครัว ของพวกเขาเหล่านั้น เหมือนกับทุกอาชีพ เเต่ที่เเตกต่างก็คือ พวกเราไม่มีความมั่นคงเหมือนอาชีพอื่นๆ” ปกรณ์วุฒิ กล่าว

ปกรณ์วุฒิกล่าวอีกว่า โดยตนขอยกตัวอย่างของประเทศญี่ปุ่น ที่คลายล็อกมาตรการและอนุญาตให้สามารถเปิดสถานบริการ ธุรกิจกลางคืนได้ เเละพบมีการระบาดซ้ำ จากสถานบริการกลางคืน เเต่รัฐบาลอนุญาตไม่ต้องปิดสถานบริการ แต่ขอความร่วมมือในการป้องกัน เพื่อเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันมากยิ่งขึ้น โดยพรรคก้าวไกลขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ มองเห็นความสำคัญของปากท้องของประขาชนในการคลายล็อกมาตรการเป็นเต็มรูปแบบ เเละใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคเท่าที่จำเป็น โดยเสนอให้คลายล็อกมาตรการแล้วใช้ศักยภาพทางสาธารณสุขอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเเละผลเสียต่อทางเศรษฐกิจ การปฏิบัติแบบนี้ของรัฐบาล เปรียบเสมือนเป็นการปกป้องคนส่วนน้อยที่ไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเลย แต่ทอดทิ้งคนที่อาจที่ไม่มีชีวิตได้ในภาวะเเบบนี้

“ในฐานะนักดนตรีคนหนึ่ง ทุกคนเกินมามีความฝัน ความฝันของทุกคนคือการหาเลี้ยงชีพ ครอบครัว อย่าให้การมีความฝันในประเทศนี้เป็นเรื่องที่ผิด” ปกรณ์วุฒิ กล่าว

ขณะที่ธัญวัจน์ กล่าวว่า นอกจากอาชีพนักดนตรี เรายังมีนักเต้น นางโชว์ พนักงานเสิร์ฟ อาชีพบริการกลางคืน ธุรกิจอื่นๆต้องปิดตัวลง ยังส่งผลต่อธุรกิจรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดกลางคืน เเละพนักงานขับรถสาธารณะแทกซี่ หรือแม้กระทั่งสามล้อ พนักงานเชียร์เบียร์ โดยส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่ขาดซึ่งการเยียวยาจากรัฐบาล เเละจากกรณีที่ปกรณ์วุฒิได้กล่าวในข้างต้น ตนอยากจะรัฐบาลว่า รัฐมีความเข้าใจที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจริงหรือไม่ รัฐมีความเข้าใจในชีวิตคนกลางคืนมากแค่ไหน ทั้งนี้ จากการที่ตนได้ลงพื้นที่ เขาเหล่านั้นพร้อมที่จะเปิดบริการ พร้อมจะทำตามเงื่อนไขสาธารณสุขของรัฐบาล socia distanicing เขาพร้อมที่จะให้เปิดบริการ เพื่อให้อาชีพของเขาได้เลี้ยงครอบครัวของเขาอย่างมีความสุข เเละร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยผลกระทบของอาชีพที่ได้รับมากที่สุด คืออาชีพสถานบริการ ในยามราตรี ที่สร้างความสุขเเละสร้างเม็ดเงินให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมหาศาล เเละเราเข้าใจต่อสถานการณ์โควิด-19 แต่ปากท้องของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ

ทั้งนี้ ตนเเละพรรคก้าวไกล ขอเรียกร้องให้รัฐบาลนำงบประมาณในส่วนที่ออกจาก พรกเงินกู้ เเละพรบ.โอนงบประมาณ จัดสรรเเละเยียวยาให้กับผู้ที่ได้ผลกระทบโดยตรง เพื่อให้เขาได้ดำเนินชีวิตต่อไป

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่