เสธ.แมว ชี้ คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีวาระซ่อนเว้น อัด รบ.มัวแย่งเก้าอี้ แบ่งหัวคิวเงินกู้ เตรียมนับถอยหลังได้เลย

14มิ.ย.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีดเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจได้ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว แต่ยังคงอำนาจของพ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ โดยใช้เหตุผลว่าเพื่อการควบคุมโรคไวรัสโควิด-19 ฉะนั้นถ้ามีม็อบมาเคลื่อนไหวประท้วงเรียกร้องรัฐบาล แบบมีมาตรการปลอดภัยจากโควิด ก็อย่าเอาอำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาดำเนินคดีกับพวกเขาก็แล้วกัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องของการควบคุมโรคแต่อย่างใด สถานการณ์โควิดได้เบาบางลงอยู่ในระดับที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จะใช้ภาวะผู้นำสั่งการตามอำนาจหน้าที่ของกฎหมายปกติ ก็สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้แล้ว แต่การคงอำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ ก็เพราะรัฐบาลมีวาระซ่อนเร้น ถ้าการสั่งการแก้ไขปัญหาแล้วมีความผิดพลาดเกิดขึ้น จะได้ใช้อำนาจของพ.ร.ก.ฯมาคุ้มครองไม่ให้ถูกฟ้องรัองดำเนินคดีได้

ขณะเดียวกันก็แฝงไว้ใช้รับมือกับแฟลชม็อบนั่นเอง การใช้อำนาจพ.ร.ก.ฯอย่างพร่ำเพรื่อ เป็นความเขลาของรัฐบาล และจะพาอำนาจของพ.ร.ก.ฯหมดความขลังลง ท้ายที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ประท้วงเรียกร้องของประชาชน ณ ห้วงเวลานี้ขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่อ้างอำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ประท้วง ก็จะเกิดการไม่ยอมรับจากกลุ่มผู้ประท้วง เกิดเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติที่รัฐบาลสร้างขึ้นมาเอง จนสภาพบังคับใช้กฎหมายกลายเป็นเป็ดง่อย ภาพลักษณ์ของรัฐบาลจะยิ่งเสื่อมทรุด ประจวบกับการทะเลาะเบาะแว้งแย่งโควต้ารัฐมนตรี ของการปรับคณะรัฐมนตรีภาคบังคับ ที่จำต้องปรับอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ โดยมีหัวคิวโครงการเงินกู้4แสนล้านบาทเป็นชิ้นปลามันล่อตาอยู่ จนเกิดการแย่งชิงอำนาจเกินควบคุมซ้ำรอยเดิมประวัติศาสตร์ เข้าสู่อาการนับถอยหลังของการปิดฉากรัฐบาลตามมา แล้วเปิดฉากการมีรัฐบาลใหม่ แต่ครั้งนี้จะต่างจากในอดีต เพราะประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง จะมาร่วมคิด ร่วมทำ ให้บังเกิดรัฐบาลใหม่ แต่จะเป็นในรูปการใดนั้น ต้องจับตาดูกันอย่างใจจดใจจ่อต่อไป


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่