“โรม” ตั้งกระทู้กลางสภา อุ้มหาย “วันเฉลิม” จี้ถามเอกสารฝ่ายความมั่นคง-รัฐบาลตามสืบ

วันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดกรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมทางสังคม ซึ่งลี้ภัยไปอยู่ประเทศกัมพูชาหลังการรัฐประหารถูกอุ้มตัวไปตามที่เป็นข่าว โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตอบคำถาม

นายรังสิมันต์ ระบุว่า สิ่งที่ทำให้สังคมเคลือบแคลงว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวกับการเมืองไทย คือการที่คุณวันเฉลิมเป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัยทางการเมืองภายหลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ถูกแจ้งความและออกหมายจับในคดีไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช. และคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ดูแลเพจ “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ” โพสต์ข้อความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2561 ซึ่งแม้จะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง แต่ก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง มีสิทธิในชีวิตและร่างกายที่ถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไทยมีหน้าที่ต้องคุ้มครองไม่ว่าจะเป็นผู้ลี้ภัยหรือไม่ ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในหรือนอกประเทศ ไม่ว่าพวกเขาจะรักหรือชังรัฐบาลก็ตาม หากแต่ปฏิกิริยาแรกจากทางการไทย คือ ตีมึน ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รู้จัก ไม่มีอำนาจ ฟังแล้วไม่สัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นใดๆ ทั้งสิ้น ‘เหมือนลาแก่ที่นอนแน่นิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว ต้องรอให้เอาแส้มาฟาด เอาน้ำร้อนมาสาด ให้สังคมต้องมากดดันถึงได้สะดุ้งลุกขึ้นมาวิ่งเต้นประสานงานกับทางการกัมพูชา

“ภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ชุดแรกมาจนถึงชุดปัจจุบัน มีกรณีการอุ้มหายหรือการบังคับให้หายสาบสูญเกิดขึ้นอย่างน้อย 9 ราย ทั้งผู้ลี้ภัยทางการเมืองและชาวบ้านผู้เรียกร้องสิทธิ ไม่มีรายไหนสามารถติดตามเอาคนร้ายมาลงโทษได้ ไม่มีรายไหนที่หาตัวเหยื่อจนพบตัวเป็นๆ ต้องรอให้ธรรมชาตินำพาอย่างกรณี 2 ศพถูกคว้านท้องยัดแท่งปูนริมแม่น้ำโขง โลกถึงได้รู้ว่าคนเหล่านี้ต้องประสบชะตากรรมที่โหดร้ายเพียงใด หากผมเป็นรัฐบาลผมคงรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งกับความหย่อนยานในการทำหน้าที่ตัวเอง ดังนั้น คำถามคือ เหตุใดเราจึงยังไม่รู้เสียทีว่าผู้ก่อเหตุในแต่ละคดีเป็นใคร ชะตากรรมของผู้ถูกอุ้มหายอีก 7 คนนั้นเป็นตายร้ายดีเช่นไร และกรณีคุณวันเฉลิม รัฐบาลจะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม มีกระบวนการขั้นตอนที่ชัดเจนอย่างไรให้มั่นใจคดีนี้จะไม่ซ้ำรอยกับที่ผ่านมา และจะมีมาตรการรูปธรรมอะไรที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีกในอนาคต” นายรังสิมันต์ กล่าว

ที่มาภาพ : แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง

ถามที่มาเครือข่าย “หมิ่นสถาบัน” เอกสารฝ่ายความมั่นคงหน่วยงานไหน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับคำถามที่สอง สืบเนื่องจากที่ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผอ.สำนักงานกรมพระธรรมนูญทหารบก อดีตนายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ คสช. กล่าวถึงกระแสพุ่งเป้าโจมตีว่ากองทัพบกอยู่เบื้องหลังการอุ้มหายคุณวันเฉลิม ที่อาจเกี่ยวข้องกับกรณีการละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า คสช. ไม่เคยแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กับคุณวันเฉลิม มีเพียงความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เท่านั้น กรณีนี้ตนก็เชื่ออย่างนั้น แต่ขัดกับที่หน่วยงานความมั่นคงได้จัดทำรายชื่อผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของคุณวันเฉลิมรวมอยู่ด้วย และยังมีเอกสารจากฝ่ายความมั่นคงที่ปรากฏในสื่อหลายสำนักเช่นกัน ที่ระบุชื่อและภาพถ่ายของคุณวันเฉลิมว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการหมิ่นสถาบัน ซึ่งทั้งหมดนี้ดูจะขัดกับสิ่งที่ พล.ต.บุรินทร์พยายามแก้กระแสโจมตีผ่านการชี้แจงข้อเท็จจริงว่าไม่มีการแจ้งความตามมาตรา 112

“ผมคิดว่าถ้าตัวเองเป็นคุณวันเฉลิม ผมอาจหนีออกนอกประเทศเพราะกลัวโทษฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ในตอนแรก แต่อาจตัดสินใจกลับมาสู้คดีเพราะเห็นว่าไม่เป็นโทษร้ายแรงมากนัก ถ้าไม่ปรากฏว่าต่อมาผมมีชื่ออยู่ในพวกทำผิดข้อหาร้ายแรงอย่างการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การถูกกล่าวหาจากฝ่ายความมั่นคงเช่นนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้คุณวันเฉลิมไม่กล้ากลับเข้าประเทศ จนต้องถูกอุ้มหายในต่างแดนท้ายที่สุด ดังนั้น คำถามคือ ฝ่ายความมั่นคงมองว่าคุณวันเฉลิมมีสถานะหรือบทบาทเกี่ยวข้องกับการเมืองไทยอย่างไรกันแน่ เหตุใดจึงมีรายชื่อเป็นผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 และขบวนการหมิ่นสถาบัน ฝ่ายความมั่นคงที่ทำเอกสารดังกล่าวคือหน่วยงานใด จัดทำเอกสารดังกล่าวขึ้นด้วยเหตุใด และระบุรายละเอียดการกระทำในส่วนของคุณวันเฉลิมไว้ว่าอย่างไร การที่มีชื่อว่าเป็นขบวนการหมิ่นสถาบันในเอกสารของฝ่ายความมั่นคง หมายความว่ายังอาจเป็นไปได้ที่ประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์จะเป็นมูลเหตุจูงใจในการอุ้มหาย ใช่หรือไม่ และการที่กองทัพบกโดย พล.ต.บุรินทร์ ออกมาชี้แจงดังที่กล่าวข้างต้นนั้นเป็นความพยายามที่จะตัดความเชื่อมโยงถึงปัจจัยที่อาจเป็นมูลเหตุจูงใจในการอุ้มหายคุณวันเฉลิมหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

เพจดังเผยคนเกี่ยวข้องก่อเหตุ- จี้รัฐบาลทราบเรื่องเรียกตัวสอบหรือไม่

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า คำถามสุดท้าย ในขณะที่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครก่อเหตุอุ้มหายคุณวันเฉลิม ได้มีกระแสข่าวหนึ่งที่ได้เปิดเผยออกมาว่ามีบุคคลคนหนึ่งที่มีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในทางใดทางหนึ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เผยแพร่ผ่านเพจดังๆ อย่าง “Andrew MacGregor Marshall”, “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” ฯลฯ ซึ่งมีการตอบรับจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก สะท้อนว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าเรื่องดังกล่าวอาจเป็นความจริง ทั้งนี้ ตนยังไม่ปักใจเชื่อในกระแสข่าวดังกล่าว และจะไม่ปรักปรำบุคคลที่ถูกพาดพิง แต่เนื่องจากเห็นว่าในการถามกระทู้สดครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับทราบข้อมูลจากทางฝั่งรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลยืนยันข้อเท็จจริงต่อประชาชน จึงขอถามว่าตามข้อมูลที่รัฐบาลได้สืบหาหรือรับทราบเกี่ยวกับการอุ้มหายคุณวันเฉลิมนั้น บุคคลที่ถูกเพจดังอ้างถึงคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไร ช่วยยืนยันได้หรือไม่ว่าบุคลากรที่กินภาษีของแผ่นดินคนใดรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการอุ้มหายนี้ และช่วยตอบให้ชัดเจนหน่อยได้ว่าตามที่ปรากฎในข่าวสารดังที่ผมอ้าง รัฐบาลได้มีการสืบสวนสอบสวนบุคคลดังกล่าวแล้วหรือไม่ อย่างไร

“สมศักดิ์” เลี่ยงตอบคำถาม – โยนให้ กต.แจง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ ได้ลุกขึ้นตอบแต่ละคำถามของนายรังสิมันต์ โดยระบุว่า กรณีของคุณวันเฉลิมไม่เคยขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตามที่คิดว่าน่าสนใจคือในการป้องกันและแก้ไขได้มีการนำนำร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ความคืบหน้าในคดีต่างๆ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย จึงออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์เกี่ยวกับกรณีกระทำทรมาน และทำให้สูญหาย ให้ รมว.ยุติธรรม ซึ่งก็คือตนเป็นประธานและได้ตั้งอนุกรรมการ ดำเนินการเรื่องนี้อีก 2 ชุด มีคดีเกี่ยวกับเรื่องการสูญหาย 87 ราย ได้เนินการเรียบร้อยแล้ว 75 ราย

ขณะคำถามที่สอง นายสมศักดิ์ ได้เริ่มต้นโดยการอ่านรายชื่อบุคคลสูญหาย 8 ราย ที่ระบุว่าอยู่ระหว่างติดตามของดีเอสไอ ถ้าอยากทราบรายละเอียดพร้อมส่งให้ และระบุด้วยว่า การติดตามบุคคลอุ้มหายในต่างประเทศ เป็นกรณีไม่ปกติ ไม่สามารถสืบสวนสอบสวนบนอธิปไตยประเทศอื่น ต้องประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ด้าน กระทรวงยุติธรรมตอบได้เพียงเท่านี้ ส่วนคำถามสุดท้ายนั้น นายสมศักดิ์ ไม่ตอบ อ้างว่าเป็นเรื่องลึกซึ้ง และโยนให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ให้คำตอบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการตอบกระทู้ถามสดขอนายสมศักดิ์ ไม่ตรงกับที่นายรังสิมันต์ถาม อาทิ กรณีของ 8 บุคคลที่สูญหายในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานั้น นายรังสิมันต์หมายถึง นายเด่น คำแหล้, นายอิทธิพล สุขแป้น หรือ ดีเจซุนโฮ, นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋, นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน, นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือภูชนะ, นายไกรเดช ลือเลิศ หรือ กาสะลอง, นายชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ ลุงสนามหลวง, นายกฤษณะ ทัพไทย และนายสยาม ธีรวุฒิ

ทั้งนี้ ในกรณีของนายชัชชาญและนายไกรเดช ซึ่งเป็น 2 ผู้ติดตามของนายสุรชัย ถูกพบกลายเป็นศพมัดกระสอบ สภาพใบหน้าถูกทำลายและถูกคว้านท้องยัดแท่งปูนเพื่อถ่วงศพลงน้ำ ก่อนศพทั้ง 2 ไปเกยริมฝั่งแม่น้ำโขง 2 จุดในจังหวัดนครพนมเมื่อปลายปี 2561 ยิ่งเพิ่มน้ำหนักถึงกระแสข่าวในแวดวงผู้ลี้ภัยทางการเมืองเกี่ยวกับทีมอุ้มฆ่าผู้ต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่