กว่า 5 พันรายชื่อในวันเดียว! ร่วมร้องปปช. ก่อน “หมู่อาร์ม” เข้าทวงถามคืบหน้าคุ้มครองพยานพรุ่งนี้

วันที่ 8 มิ.ย.63 เมื่อเวลาราว 12.00 น. เฟสบุ๊คของ ”หมู่อาร์ม” หรือส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี (เสมียนงบประมาณของหน่วยงานในกรมสรรพาวุธทหารบก ที่ได้ออกมาเปิดโปงการทุจริต จนมีการสอบโดยคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยผบ.ทบ.และชี้มูลแล้ว) มีความเคลื่อนไหวล่าสุดตามโพสต์ว่า “กราบขอบพระคุณประชาชนกว่า 5 พันคนที่ได้ร่วมลงชื่อ สำหรับกำลังใจที่ส่งมาให้ผมครับ 🙏🏻 พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า ผมจะเดินทางไปสำนักงาน ปปช. สนามบินน้ำ เพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้าคำร้องขอคุ้มครองพยานโอนย้ายหน่วยงานตามกฎหมาย ที่ยื่นไปเมื่อ 17 มีนาคม 2563”

พร้อมกันในโพสต์ดังกล่าว “หมู่อาร์ม” ได้แนบลิ้งค์ข้อเรียกร้องใน www.change.org/saveหมู่อาร์ม ที่เป็นแคมเปญรณรงค์ในนาม “ประชาชนเพื่อการปฏิรูปกองทัพ” มีข้อเรียกร้องถึงปปช. ให้ดำเนินการคุ้มครองพยานตามกฎหมาย ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่เผยแพร่มาแล้วในเวลาเพียง 1 วัน มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่าห้าพันรายชื่อ โดยมีเนื้อหาดังนี้

“ช่วยกันลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้ปปช.ใช้อำนาจตามกฎหมายในการคุ้มครองพยานที่เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 หมวด 7 มาตรา 133 ด้วยการย้ายให้ ส.อ. ณรงค์ชัย อินทรกวี ไปสังกัดยังหน่วยงานอื่นตามคำร้องที่เคยยื่นไว้อย่างเร่งด่วนที่สุด

ส.อ. ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ “หมู่อาร์ม” เสมียนงบประมาณ ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก เป็นผู้ที่ออกมาเปิดโปงการทุจริตเบี้ยเลี้ยงทหารชั้นผู้น้อย และงบประมาณโครงการอบรมยาเสพติดในสังกัดของตน โดยตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 เรื่อยมา เขาได้ยื่นเรื่องร้องเรียนพร้อมหลักฐาน และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามลำดับดังนี้

5 ก.ย. 62 ยื่นเรื่องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (เรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เป็นที่รับทราบในหน่วย และเป็นจุดเริ่มต้นของการถูกกลั่นแกล้ง)

ต.ค. 62 ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ กรณีโต้เถียงกับผู้บังคับบัญชาจากเหตุการณ์ถูกตำหนิเรื่องการรวมแถวซึ่งเกิดในเดือนกันยายน โดยเมื่อถูกผู้บังคับบัญชาขู่ปลด หมู่อาร์มได้ตอบไปว่า “ถ้าคุยแบบมียศฐาบรรดาศักดิ์ผมไม่คุย แต่ถ้าถอดเสื้อกันคุยแบบพี่น้องผมคุย”

24 ก.พ. 63 ยื่นเรื่องร้องเรียนการทุจริตต่อผบ.ทบ.พร้อมตัวแทนชมรมที่ทำงานกับเหยื่ออาชญากรรม โดยมีพ.อ.วินธัย สุวารี และพล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผอ.สำนักงานพระธรรมนูญทหารบก เป็นตัวแทนรับเรื่องที่ห้องรับรอง สำนักงานเลขานุการกองทัพบก และมีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยโฆษกกองทัพบกได้แถลงในวันถัดมาว่าได้นำเรื่องร้องเรียนทั้งหมดที่มีการยื่นในวันดังกล่าว เข้าสู่ระบบการตรวจสอบของสายตรงผบ.ทบ.แล้ว โดยยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่ากระบวนการตรวจสอบจะเป็นความลับ ซึ่งการแถลงดังกล่าวปรากฏเป็นข่าวในสื่อกระแสหลัก

25 ก.พ. 63 มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในหน่วยจากกรณีที่เป็นข่าวว่ามีการร้องเรียน หมู่อาร์มได้ให้การยืนยันว่ามีการทุจริตจริง

12 มี.ค. 63 มีคำสั่งลงโทษจำขัง 7 วัน จากเหตุการณ์ที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบตั้งแต่เดือนต.ค. โดยให้ขังระหว่างวันที่ 16-22 มี.ค. 63 หมู่อาร์มจึงโทรศัพท์ร้องเรียนต่อสายตรงทบ. ทั้งเรื่องการทุจริตและการลงโทษไม่เป็นธรรม และในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ได้รับการติดต่อจากนายพันที่ได้คุยกับผู้บังคับบัญชาให้ โดยให้แก้ไขเรื่องราวด้วยการไปขอขมาผู้บังคับบัญชาและผบ.ศูนย์ซ่อมสร้าง ด้วยธูปเทียนแพ เพื่อจะได้รับการอภัย

13 มี.ค. 63 เข้าขอขมาผู้บังคับบัญชา ได้รับการอบรมสั่งสอน และให้โอกาสไปยุติเรื่องร้องเรียนทุกเรื่องภายใน 16 มี.ค. โดยระหว่างการขอขมานี้ มีคำพูดจากผู้บังคับบัญชาที่ทำให้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย https://prachatai.com/journal/2020/05/87860 อย่างไรก็ตาม หมู่อาร์มได้โทรไปยุติเรื่องร้องเรียนต่อสายตรงทบ.(ซึ่งในขณะนั้นผู้บังคับบัญชายังไม่ทราบว่ามีการร้องเรียนช่องทางนี้ด้วย) และประสานสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อชะลอเรื่องที่เคยร้องไว้

17 มี.ค. 63 หมู่อาร์มได้ทราบว่า เรื่องที่ร้องเรียนสายตรงทบ.ไว้ได้ถูกส่งกลับมาให้หน่วยตรวจสอบ ทำให้ผู้บังคับบัญชาเกิดความไม่พอใจมาก จึงสั่งลงโทษจำขังคงเดิมโดยเปลี่ยนแปลงวันที่เป็น 18-24 มีนาคม เขาจึงตัดสินใจออกมาจากหน่วย เพราะคำพูดของผู้บังคับบัญชาในวันขอขมา ทำให้รู้สึกถึงอันตรายต่อชีวิต จึงหอบเอกสารหลักฐานการทุจริตเท่าที่มีออกมาจากหน่วย เข้ายื่นเรื่องต่อปปช.ทันที พร้อมเขียนหนังสือคำร้องขอคุ้มครองพยานตามกฎหมาย

19 มี.ค. 63 โทรแจ้งสายตรงผบ.ทบ. ว่าได้หนีออกมา และขอให้เร่งรัดดำเนินการเรื่องที่ได้ร้องเรียนไว้ https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/126750 20 มี.ค. 63 ติดต่อเพจ โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา เพื่อขอเปิดเผยข้อมูลการทุจริต และประสานงานเพื่อความช่วยเหลือและการร้องเรียนเพิ่มเติม หลังจากนั้นมีการเผยแพร่คลิปสัมภาษณ์รายละเอียดของการทุจริตและการถูกกลั่นแกล้งผ่าน YouTube และแฟนเพจ ในวันที่ 20 เมษายน https://youtu.be/Y93w2dWWXB8

27 เม.ย. 63 เข้ายื่นหนังสือพร้อมนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ต่อประธาน กมธ.ปปช. พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช https://workpointnews.com/2020/04/27/soldier/

20 พ.ค. 63 เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตและการถูกกลั่นแกล้งที่กรมจเรทหารบกตามคำเชิญของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งผบ.ทบ. โดยมีเจ้ากรมจเรทหารบกเป็นประธาน ปัจจุบันคณะกรรมการได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตพบว่ามีมูล และส่งต่อให้ปปช.ดำเนินการต่อไป https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/126696

27 พ.ค. 63 เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดโดยผู้บังคับบัญชา ตามคำเชิญของกมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ปัจจุบันมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเพิ่มเติมแล้ว https://www.matichon.co.th/politics/news_2208442 5 มิ.ย. 63 มีข่าวว่าต้นสังกัดมีคำสั่งปลด และเตรียมดำเนินคดีในศาลทหารข้อหาขาดราชการเกิน 15 วัน

https://www.bbc.com/thai/52939264 ส.อ. ณรงค์ชัย อินทรกวี ถูกสั่งระงับเงินเดือนตั้งแต่ 18 มีนาคม 63 เป็นต้นมา ปัจจุบันนายทหารชั้นผู้น้อยผู้เปิดโปงการทุจริตผู้นี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงถูกดำเนินคดีหนีราชการ เพราะความล่าช้าในการดำเนินการคุ้มครองพยานตั้งแต่วันแรกที่เขาออกจากหน่วยเพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนต่อปปช. ทั้งที่มีการยื่นคำร้องขอความคุ้มครองไว้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 63

เราขอเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการเพื่อให้ส.อ.ณรงค์ชัย ได้ย้ายสังกัดเพื่อความปลอดภัยในทันที ตามอำนาจที่กำหนดไว้ในมาตรา 133 “ในกรณีบุคคลตามมาตรา 131 วรรคหนึ่ง เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เมื่อบุคคลนั้นร้องขอต่อคณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานเบื้องต้นอันควรเชื่อได้ว่าน่าจะมีเหตุดังกล่าว ให้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการให้ได้รับความคุ้มครองหรือมีมาตรการอื่นใดตามที่เห็นสมควรต่อไป และอาจเสนอให้มีการกำหนดตำแหน่งและสิทธิประโยชน์อื่น เพื่อคุ้มครองบุคคลนั้นในหน่วยงานของรัฐอื่นที่ไม่ต่ำกว่าระดับและตำแหน่งที่บุคคลดังกล่าวเคยดำรงตำแหน่งอยู่เดิม”

น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา ผู้ประสานงานการรณรงค์กล่าวว่า ตนได้ประสานไปยังสำนักงานปปช.แล้ว เพื่อยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวจากประชาชนกว่าห้าพันคนถึงมือคณะกรรมการ ปปช. ผ่านโฆษกสำนักงานปปช. ในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. เพราะได้เห็นตามข่าวว่าท่านได้ให้สัมภาษณ์ว่าหมู่อาร์มมีสิทธิได้รับความคุ้มครองนี้

“สิ่งสำคัญในตอนนี้ คือ ปปช.ต้องให้ความคุ้มครองตามกฎหมายได้ทันเวลา เพราะหมู่อาร์มกำลังจะถูกปลดและดำเนินคดีด้วยข้อหาขาดราชการเกิน 15 วัน ทั้งที่เขาเข้ายื่นหลักฐานการทุจริตและหนังสือขอความคุ้มครองด้วยการย้ายสังกัดตามกฎหมายพรบ.ป้องการและปราบปรามการทุจริต ม.133 ตั้งแต่ 17 มีนาแล้ว หากปปช.ไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินการอย่างล่าช้า เขาก็จะไม่ต้องสูญเสียอาชีพการงานไป ซึ่งการคุ้มครองพยานนี้เป็นกลไกที่สำคัญที่สุดสำหรับการปราบคอรัปชั่นในหน่วยงานราชการ จึงสำคัญมากที่ต้องสร้างบรรทัดฐานอย่างเร่งด่วน” ณัฏฐา กล่าว

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่