‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นผู้ตรวจฯส่งศาลวินิจฉัย ‘สุชาติ’ นั่งป.ป.ช.ได้หรือไม่ ชี้หนีไม่พ้นครหา

“ศรีสุวรรณ” ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลวินิจฉัย “สุชาติ” นั่งป.ป.ช.ได้หรือไม่ ชี้ได้รับแต่งตั้งแต่หนีไม่พ้นถูกครหามีผลประโยชน์ทับซ้อน คล้ายนาฬิกาบิ๊กป้อม เล็งเล่นงานส.ว. 219 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หากศาลวินิจฉัยผิด

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบและเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง วินิจฉัยว่าการที่สำนักเลขาธิการวุฒิสภา และคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่งรายชื่อนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งพ้นจากตำแหน่งมายังไม่ครบ 10 ปี จึงมีลักษณะต้องห้ามตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 11( 18)ให้วุฒิสภาเห็นชอบเป็นว่าที่กรรมการป.ป.ช. เข้าข่ายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากนายสุชาติจากตำแหน่งมายังไม่ครบ 10 ปี โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า การที่ที่ประชุมวุฒิสภาวันที่ 26 พ.ค.เห็นชอบให้นายสุชาติ ซึ่งเป็นอธิบดีกรมอัยการ ผู้พิพากษาศาลมีนบุรี เป็นบุคคลที่เหมาะสมเป็นกรรมการป.ป.ช. แทนตำแหน่งที่ว่าง แต่เนื่องจากว่านายสุชาติเคยเป็นสนช. ในช่วงตั้งแต่ ‪11 ตุลาคม‬ 57 ซึ่งในกฎหมายป.ป.ช.ปี 2561 ได้บัญญัติไว้ชัดเจนว่า บุคคลที่จะมาเป็นกรรมการป.ป.ช.นั้นจะต้องไม่เป็นสมาชิกส.ส. วุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองในระยะ 10 ปี ก่อนดำรงตำแหน่ง ดังนั้นการที่นายสุชาติเพิ่งพ้นจากการเป็นสนช.ได้เพียง 1 ปีที่ผ่านมา จึงน่าจะมีลักษณะต้องห้ามตามพ.ร.ป.ว่าด้วยป.ป.ช. 2561 ในมาตรา 11(18) โดยชัดเจน อีกทั้งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญไม่น่าจะต้องการบุคคลที่มีหน้าที่นิติบัญญัติในการออกกฎหมายมาบังคับใช้เข้าไปมีผลประโยชน์ได้เสียในองค์กรต่างๆ หรือแม้แต่องค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญจึงพยายามกำหนดระยะห่างเอาไว้เป็นเวลา 10 ปี ดังนั้นการที่ส.ว.ทั้ง 219 คน ลงคะแนนโหวตเห็นชอบนายสุชาติ น่าจะขัดแย้งต่อกฎหมายป.ป.ช. และขัดรัฐธรรมนูญ

“ต้องอย่าลืมว่านายสุชาติได้เป็น สนช.โดยการแต่งตั้งของ คสช.ในสมัยนั้น และปัจจุบันหัวหน้าคสช.ก็คือนายกรัฐมนตรี การจะเข้าไปดำรงตำแหน่งป.ป.ช.ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการทุจริตของข้าราชการ นักการเมือง ก็อาจถูกครหาได้ว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วก็อาจเป็นเรื่องเหมือนที่หลายคนวิพากษ์นาฬิกาบิ๊กป้อม ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรสุดท้ายก็มีการวินิจฉัยว่า เป็นการยืมใช้ของเพื่อน ซึ่งผมเองก็เป็นนักกฎหมายดูแล้วไม่สามารถจะวิจารณ์เป็นอย่างอื่นได้ ดังนั้นประเด็นการรับรองนายสุชาติ มาเป็นกรรมการป.ป.ช.เข้าใจว่าน่าจะขัดพ.ร.ป.ว่าด้วยป.ป.ช.โดยชัดเจน และถ้าหากเรื่องนี้เป็นที่ยุติในชั้นศาลว่านายสุชาติไม่สามารถดำรงตำแหน่งป.ป.ช.ได้ ผมก็จะดำเนินการเอาผิดกับ ส.ว.ทั้ง 219 คน ที่รับรองนายสุชาติฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบด้วย”

นายศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินควรจะต้องส่งศาลปกครองเพราะเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้มีอำนาจ ไม่ใช่เรื่องขัดแย้งในทางกฎหมายขัดแย้งที่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งในอดีตเคยมี สนช.นำเรื่องที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและศาลมีคำวินิจฉัยว่า คณะกรรมการสรรหาไม่สามารถจะวินิจฉัยได้และศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่รับเรื่อง เมื่อมีบรรทัดฐานในเรื่องนี้แล้ว การจะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกก็อาจจะปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม หากผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าอาจจะไม่ใช่อำนาจของศาลปกครองแต่เป็นศาลรัฐธรรมนูญหรือหน่วยงานอื่นใดก็ขึ้นอยู่กับผู้ตรวจการแผ่นดินจะวินิจฉัยต่อไป เพื่ออย่างน้อยเรื่องนี้จะได้เป็นที่ยุติของสังคมไม่ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์หาที่ยุติไม่ได้


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่