“ครูมานิตย์”ชี้ เงินทุกบาทตามพ.ร.ก.กู้เงิน ประชาชนเป็นหนี้ รบ.อย่าคิดว่าเป็นบุญคุณ

“ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม” ชี้ “พ.ร.ก.กู้เงิน” ทุกบาททุกสตางค์ประชาชนเป็นหนี้ รัฐบาล อย่าคิดว่ามีหนี้บุญคุณ

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม  ที่รัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวในการอภิปราย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 ว่า ประเทศไทยก่อนที่จะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีปัญหาใหญ่ 2 เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ที่มีคนตกงานและราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ จากการบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาล และอีกปัญหาหนึ่ง ก็คือกรณีการชุมนุมแฟลชม็อบของนักศึกษาและประชาชน พอมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ไม่กี่วัน ยังไม่ทันที่การระบาดจะร้ายแรงแต่น่าสังเกตว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหนักหน่วงนำไปก่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเอาโควิด-19 มาเป็นแพะรับบาปเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ท้ายที่สุด เมื่อมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาแบบ 3 อิน 1 แต่เมื่อมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วก็มีเคอร์ฟิวและล็อกดาวน์ ตามมา ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนอย่างหนัก

“การประกาศ พ.ร.ก.กู้เงิน ในวันนี้ รัฐบาลอย่าคิดว่ามีหนี้บุญคุณ การประกาศว่ารัฐบาลเอามาให้นั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นเงินของชาวบ้าน และพวกเขาต้องเป็นหนี้ เงินที่กู้มาทุกบาท ทุกสตางค์ ประชาชนเป็นหนี้ แล้วยังมาขู่อีกว่าถ้าไม่เชื่อฟัง เดี๋ยวจะไม่ให้ จะไม่ให้ได้อย่างไร ในเมื่อเป็นเงินกู้ พวกผมก็จะไม่ยกมือเพราะพวกผมเป็นตัวแทนของประชาชน แล้วก็เชื่อว่า ฝ่ายรัฐบาลเองก็จะไม่กล้ายกมือ หากไม่เอาเงินไปให้ประชาชน”