‘วิษณุ’เปรียบบอร์ดตัวเองแค่ไปรษณีย์ ประสานแผนกู้บินไทย แย้ม ตัดสัมพันธ์รบ.ได้ไม่ขาด

‘วิษณุ’ เปรียบบอร์ดตัวเองเป็นไปรษณีย์ ประสานแผนฟื้นบินไทย แย้ม ตัดสัมพันธ์รัฐบาลได้ไม่ขาด

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า บอร์ดที่ตนนั่งเป็นประธานอยู่นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรในเรื่องนี้ ไม่ใช่บอร์ดใหญ่โตมโหฬารอะไร ไม่ใช่ซุปเปอร์บอร์ดเป็นเพียงมินิบอร์ด เป็นไปรษณีย์ ทั้งนี้การบินไทยยังสามารถบินและทำธุรกิจได้ตามปกติ แต่ต่อจากนี้การบินไทยจะมีศึกสองด้าน คือ กระบวนการในการฟื้นฟู และการประกอบกิจการตามปกติ ซึ่งในส่วนนี้บอร์ดการบินไทยจะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการฟื้นฟูนั้นเป็นเรื่องของผู้ทำแผน ซึ่งต่อไปผู้ทำแผนจะเปลี่ยนมาเป็นผู้บริหารแผน และบอร์ดการบินไทยจะมีบทบาทน้อยมากในเรื่องแผนการฟื้นฟู โดยหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางรับคำร้องแล้วขั้นตอนต่อไปคือกระบวนการไต่สวน โดยปกติจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ต่อจากนั้นศาลจะมีคำสั่งว่าจะรับแผนนั้นไว้

นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อรับแผนแล้วจะต้องตั้งผู้บริหารแผน ซึ่งจะเป็นอีกทีมหนึ่ง เหมือนกับเป็นซีอีโอและทุกอย่างจะอยู่ที่ผู้บริหารแผน โดยไม่ต้องมารับฟังคณะกรรมการชุดของตน เพราะไม่สามารถไปแทรกแซงได้ เพราะตามพ.ร.บ.ล้มลาย ระบุว่าหากมีผู้ใดไปวิ่งเต้นดูรู้เรื่องอะไรแล้วนำมาเปิดเผย ถือว่ามีความผิด ดังนั้นเราจะไม่ไปยุ่งอะไรกับเขา ต้องทำเฉพาะในบทบาทที่เป็นของภาครัฐ กรณีของการบินไทยนั้นแม้จะหลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว แต่มีรัฐวิสาหกิจหลายแห่งไปซื้อหุ้นกู้ของการบินไทย รัฐจึงต้องเข้าไปดูแล และการบินไทยจะต้องมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นของรัฐ ดังนั้นจึงต้องมีการติดต่อประสานงานกัน อีกทั้งเวลาที่จะซ่อมเครื่องบินก็ต้องประสานกองทัพอากาศ ซึ่งมันยังมีอะไรเชื่อมกันอยู่

เมื่อถามว่า หากแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จ การบินไทยจะกลับสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจอีกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เคยมีใครพูดถึง แต่ก็แล้วแต่ ปัจจุบันกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ 48% และธนาคารออมสินถือหุ้นอยู่อีกรวมเป็น 49.99% ขาดอีกแค่จุดหนึ่งก็เป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว แต่ตนไม่ควรไปตอบอะไร เดี๋ยวคนจะหัวเราะเยาะเอา เพราะเพิ่งล้มไปเมื่อวานซืน แล้วยังจะมาอีก