คนไทย “การ์ดตก” หมอย้ำ หน้ากากอนามัยต้องเป็นปัจจัยที่ 6 รองจากสมาร์ทโฟน

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรวงคุณวุฒิดรมควบคุมโรค กล่าวถึงการสำรวจทางด้านพฤติกรรมของประชาชนในช่วงสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19

นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า พฤติกรรมของประชาชนเมื่อเปรียบเทียบในช่วงก่อนมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 ช่วงระหว่างวันที่ 23-30 เมษายน พบว่า ประชาชนการ์ดตก โดยการสำรวจหลังมาตรการผ่อนปรนระหว่างวันที่ 8-14 พฤษภาคม พบว่า พฤติกรรมโดยรวมจากเดิม ร้อยละ 77.6 เหลือ 72.5 จำแนกได้แก่ 1.การสวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อออกจากบ้าน ปฏิบัติร้อยละ 91.0 จากเดิม 91.2 / 2.การไม่นำมือสัมผัสใบหน้า ปฏิบัติร้อยละ 60.7 จากเดิม 65.3 / 3.การล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ปฏิบัติร้อยละ 83.4 จากเดิม 87.2 / 4.การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ปฏิบัติร้อยละ 60.7 จากเดิม 65.3 และ 5.การกินร้อน ใช้ช้อนกลาง ปฏิบัติร้อยละ 82.3 จากเดิม 86.1

นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า การสำรวจของกรมควบคุมโรค(DDC poll) เรื่องการรับรู้ประชาชนในชีวิตปกติรูปแบบใหม่เพื่อป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 พบว่า 1.การล้างมือด้วยน้ำสบู่ ประชาชนที่ไม่ล้างมือ ร้อยละ 0.3 / ล้างมือหลังสัมผัส ลูกบิด ราวบันได ปุ่มลิฟต์ ร้อยละ 70.9 / ล้างมือหลังการไอจาม ร้อยละ 62.7 / ล้างมือก่อน-หลัง ปรุงอาหาร ร้อยละ 71.6 / ล้างมือก่อน-หลังรับประทานอาหาร ร้อยละ 91.9 / ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำ ร้อยละ 86.9

“พบว่าพฤติกรรมการล้างมือหลังและก่อนรับประทานอาหารมีจำนวนสูงมาก รองลงมาคือหลังจากการเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นเรื่องที่ดี โดยสรุปแล้วจากการสำรวจครั้งที่ 3-6 แนวโน้มลดลง แต่ก็ยังทรงตัว จึงอยากย้ำเตือนประชาชนว่า นอกจากการสวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อมีการออกนอกบ้าน เป็นปัจจัยที่ 6 ที่รองลงมาจากปัจจัยที่ 5 คือ สมาร์ทโฟน” นพ.อนุพงศ์ กล่าว

 

 

---