นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีนออกมาย้ำว่า สหรัฐจะต้องยุติการสูญเสียเวลาในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และหันมาร่วมมือกับจีนเพื่อรับมือกับศึกครั้งนี้ มากกว่าจะเสียเวลาไปกับการเผยแพร่คำโกหกและการโจมตีจีน

นายหวัง อี้ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการแพร่ระบาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ที่ขณะนี้จำนวนผู้เสียชีวิตใกล้จะลงทะลุ 100,000 รายไปแล้ว โดยย้ำว่าสิ่งที่น่าเสียใจที่สุดนอกเหนือจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ก็คือการแพร่ระบาดของไวรัสการเมืองในสหรัฐ ซึ่งไวรัสการเมืองดังกล่าวถูกใช้ในทุกโอกาสที่จะโจมตีและใส่ร้ายจีน

“นักการเมืองบางคนปฏิเสธข้อเท็จจริงพื้นฐานเกือบทั้งหมด และแต่งเรื่องโกหกมากมายเกี่ยวกับจีน รวมถึงแต่งเรื่องมากมายเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิด สิ่งที่ผมอยากจะพูดตรงนี้คืออย่าเสียเวลาอันมีค่าอีกต่อไป และอย่าเพิกเฉยต่อชีวิตของผู้คน” นายหวัง อี้ กล่าว

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวด้วยว่า สิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับจีนและสหรัฐในขณะนี้ ประการแรกคือการเรียนรู้จากกันและกัน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดใหญ่ รวมถึงช่วยเหลือกันและกันในการรับมือกับมัน

นายหวัง อี้ กล่าวว่า จีนและสหรัฐยังจำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นความร่วมมือทางด้านนโยบายเศรษฐกิจในระดับมหภาค รวมถึงการร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับโลก โดยจีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐภายใต้จิตวิญญาณแห่งความร่วมมือและการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน

“จีนพร้อมที่จะอุทิศตนในฐานะประเทศกำลังพัฒนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เราทั้งสองประเทศมีความรับผิดชอบอันสำคัญใหญ่หลวงต่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก จีนและสหรัฐจะได้ประโยชน์ร่วมกันจากความร่วมมือ และต่างจะต้องสูญเสียจากการเผชิญหน้า” นายหวัง อี้ กล่าว

นายหวัง อี้ ยังกล่าวถึงการที่รัฐมิสซูรีของสหรัฐได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลจีนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาว่า การฟ้องร้องดังกล่าวปราศจากจากพื้นฐานทางกฎหมายใดๆ จีนในวันนี้ไม่ใช่จีนเมื่อหลายศตวรรษก่อน โลกก็เช่นกัน ผู้ที่ต้องการละเมิดอธิปไตยของจีนรวมถึงความมีเกียรติของประเทศเราด้วยการยื่นฟ้องร้องตามอำเภอใจ และข่มขู่กรรโชกจากสิ่งที่เป็นผลของการทำงานอย่างหนักจากประชาชนชาวจีน เกรงว่ามันอาจเป็นได้แค่ฝันกลางวัน และจะทำได้แค่เพียงทำให้ตนเองต้องอับอายเท่านั้น

รัฐมนตรีต่างประเทศยังแสดงจุดยืนให้การสนับสนุนการทำงานขององค์การอนามัยโลก โดยย้ำว่าการสนับสนุนองค์การอนามัยโลกคือ การสนับสนุนให้มีการรักษาชีวิต ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ไม่ว่าประเทศใดที่มีสติสัมปชัญญะจะต้องดำเนินการ

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐตกต่ำลงอย่างหนักตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวโทษจีนว่าเป็นต้นต่อการแพร่ระบาดและปกปิดข้อเท็จจริง ทั้งอย่างปราศจากความโปร่งใสในการบริหารจัดการ

นอกจากนี้ สองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกยังมีปัญหากระทบกระทั่งกันเกี่ยวกับเรื่องฮ่องกง ประเด็นสิทธิมนุษยชน การค้า ไปจนถึงการที่สหรัฐให้การสนับสนุนไต้หวัน ซึ่งจีนย้ำว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน

---