ผู้แทนฯ ชายขอบก้าวไกล จี้รัฐเปิดเทอม 1มิถุนา ทันที ระบุการเรียนออนไลน์ย้ำความเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 21พฤษภาคม 2563 นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงปัญหาการเรียนในระบบออนไลน์ว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งตนเป็นชาวม้ง เกิดและเติบโตบนพื้นที่ราบสูง หรือที่คนเมืองเรียกชาวเขา รู้ดีว่าการเรียนแบบทางไกลไม่ว่าจะออนไลน์หรือโทรทัศน์มีข้อจำกัด เรื่องแรกคือเรื่องทางเทคนิค เพราะอุปกรณ์ต่างๆมีต้นทุนสูง อีกทั้งสัญญาณต่างๆอาจไม่เข้าถึง ปัจจุบันอย่าว่าแต่สัญญาณอินเตอร์เน็ต แค่ไฟฟ้ายังคงติดๆดับๆอยู่แรก นี่จึงถือเป็นข้อจำกัดประการแรก

ประการต่อมา คือ เด็กส่วนหนึ่งมีฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก โรงเรียนจึงเสมือนเป็นที่พึ่งของเขา โดยเฉพาะทางด้านโภชนาการ คือได้ทานอาหารครบ 3 มื้อ หากอยู่ที่บ้าน เด็กบางคนอาจต้องอดในบางมื้อยิ่งนานออกไปก็จะไม่เป็นผลดีต่อพัฒนาการ ไม่ว่าร่างกาย จิตใจ หรือสติปัญญา ต้องให้เข้าใจหรือเห็นภาพตรงกันก่อนว่า สภาพพื้นที่ของชาวเขา แต่ละหมู่บ้านอาจห่างกันไปตามภูตามดอยต่างๆ เด็กบางส่วนที่ไกลก็จะมารวมกันหรืออยู่หอนอนที่โรงเรียนตลอดเทอม ช่วงนี้จะได้ทานอาหารครบทุกมื้อ โรงเรียนจึงสำคัญมากสำหรับเด็กชาวเขา ความจริงยังมีปัญหาอีกมากหากจะต้องลงรายละเอียดของเด็กชายขอบแต่หากจะให้เสนอในเบื้องต้น คงเป็นเรื่องของงบประมาณเพื่อจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมปลอดภัย ไม่แออัด มีบุคคลการและหลักสูตรลงมาช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพเหมาะสมกับพื้นที่

ด้าน นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัตร์ สส บัญชีรายชื่อสัดส่วนภาคใต้ พรรคก้าวไกล ระบุว่า ปัญหาการเรียนออนไลน์ในพื้นที่ภาคไหนๆคงไม่ต่างกัน การเรียนออนไลน์ย้ำชัดว่าประเทศไทยมีความเลื่อมล้ำมานาน พ่อแม่ผู้ปกครองไม่มีเวลารวมถึงความรู้ความเข้าใจมากพอที่จะสามารถสอนลูกหลานได้ ทั้งนี้การไปโรงเรียนของเด็กในพื้นที่ต่างจังหวัดไม่เพียงการไปเรียนหนังสือ แต่เป็นการเรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคม ต้องทำความเข้าใจว่าสำหรับเด็กในต่างจังหวัดความสัมพันธ์ของครูและนักเรียนเปรียบเสมือนครอบครัว ผู้ปกครองสามารถฝากลุกหลานในระหว่างที่ตนออกไปทำมาหากินได้ ดังนั้นที่รัฐบาลจัดการเรียนการสอนออนไลน์ เท่ากับว่าเป็นการผลักภาระให้ผู้ปกครองที่ไม่พร้อม รวมไปถึงการออกมาตราการดังกล่าวเป็นการตัดสินจากบริบทในกรุงเทพเท่าซึ่งกรุงเทพไม่ใช่ประเทศไทยทั้งหมด การออกมาตราการใดๆ รัฐบาลควรเข้าใจและศึกษาบริบทแต่ละพื้นที่ให้เข้าใจ

การออกมาตรการการเรียนออนไลน์ที่นักเรียนจะได้ประโยชน์แท้จริง ควรมีการสำรวจความต้องการของทุกฝ่ายก่อนทั้งโรงเรียน ครอบครัว และนักเรียน อีกทั้งควรมอบอำนาจให้ระดับโรงเรียนได้บริหารจัดการความต้องการของตนเอง โดยรัฐบาลเป็นผู้อำนวยความสะดวกไม่ใช่ตัดสินใจโดยไม่ศึกษาบริบทสังคมแต่ละพื้นที่ ผมจึงเรียกร้องว่าเปิดเรียนตามปกติให้เร็วที่สุดในวันที่1มิถุนายนนี้ และหยุดผลักภาระให้ผู้ปกครอง หยุดการตอกย้ำความไม่พร้อมด้านต่างๆของพวกเขา และออกมาตราการให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติในวิธีสังคมใหม่เช่นนี้ นายประเสริฐพงศ์กล่าว